โบรกเชียร์ซื้อ “หุ้นพลังงาน” รับราคาน้ำมันดิบพุ่ง ยก PTTEP ท็อปพิค ชูเป้า 150 บ.

โบรกฯแนะนำซื้อ “หุ้นพลังงาน” หลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มองหุ้น PTT น่าสนใจเนื่องจากราคาแลกการ์ด ส่วน PTTEP ยกขึ้นท็อปพิคกลุ่ม แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 150 บ.


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกลับมายืนเหนือ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลอีกครั้ง

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า หุ้นหลายตัวในกลุ่มพลังงานถือว่าปรับตัวขึ้นมาจนเต็มมูลค่าแล้ว ยกเว้นหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 44 บาท

ขณะที่ บล.เคทีบี เอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ขณะนี้ยังคงน้ำหนักการลงทุน “Neutral” สำหรับกลุ่มพลังงาน พร้อมยก top pick ให้ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 150.00 บาท และชอบหุ้นโรงกลั่น เชื่อว่า PTTEP จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/65 และแนวโน้มปริมาณยอดขายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่ และ M&A ในอีก 2 ปีข้างหน้า

รวมถึง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท และ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท เชื่อว่าโรงกลั่นจะได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่สูงในไตรมาส 1/65

อนึ่ง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) พุ่งขึ้นมากถึง 8 ดอลลาร์ แตะที่ 113.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ปี 2557 ก่อนปรับตัวลงสู่ 111.75 ดอลลาร์ ณ เวลา 15.04 น. วานนี้ (2 มี.ค.65)

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐทะยานขึ้น 7.24 ดอลลาร์ หรือ 7% แตะที่ 110.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังก่อนหน้านี้พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2556

“ประชาชนเริ่มให้ความสนใจต่อภาวะชะงักงันทางการค้า โดยปัญหาด้านบริการทางการเงินและการประกันภัยเพื่อการค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกจากทะเลดำและทำให้เกิดความตื่นตระหนกด้านอุปทาน” นายจัสติน สเมิร์ค นักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคกล่าว

โดยก่อนหน้านี้ เอ็กซอนโมบิลได้ออกมาเปิดเผยในวันอังคาร (1 มี.ค.) ว่าจะยกเลิกการดำเนินงานด้านน้ำมันและก๊าซในรัสเซีย หลังรัสเซียรุกรานยูเครน โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลให้เอ็กซอนปิดโรงงานผลิตน้ำมันขนาดใหญ่บนเกาะซาฮาลินในตะวันออกไกลของรัสเซีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้บรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตกไม่ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกพลังงานโดยตรง แต่เทรดเดอร์สหรัฐตามศูนย์กลางต่าง ๆ ทั้งในนิวยอร์กและอ่าวสหรัฐต่างหลีกเลี่ยงการซื้อขายน้ำมันดิบของรัสเซีย

ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันของรัสเซียนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของอุปทานทั่วโลก

Back to top button