TKC ส่งซิกผลงานโต หลังตุนแบ็กล็อก 3 พันลบ. รับรู้ถึงปี 66
TKC ลุยเพิ่มมูลค่าธุรกิจรับเมกะเทรนด์โลก ก้าวเป็นผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ตุนแบ็กล็อก 3,000 ลบ. รับรู้รายได้ต่อเนื่องภายในปี 2565-2566 ขณะที่ปี 64 มีกำไร 200 ลบ. เคาะปันผล 0.30 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD 10 พ.ค. 2565 และจ่ายเงินปันผล 24 พ.ค.นี้
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยถึงเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 เน้นเติบโตจากศักยภาพในธุรกิจให้บริการรับเหมา ออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบงานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และ ระบบความปลอดภัยสาธารณะ ที่มีความเชี่ยวชาญเกือบ 20 ปี พร้อมวางกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่หนึ่งในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions, Smart Logistics, Cyber Security, Cloud Solutions, Drone โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้นำในอีก 1-3 ปีข้างหน้า
โดยในปี 2565 นี้ คาดว่าจะเป็นปีที่ TKC สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จากภาพรวมอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนพร้อมที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ปัจจุบัน TKC มีงานคงค้างในมือ (Backlog) อยู่เกือบ 3,000 ล้านบาท โดยได้รับงานเพิ่มช่วงไตรมาส 4/2564 มูลค่าราว 850 ล้านบาท
แบ่งประเภทของงานเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม, ด้านไอซีที และงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ TKC ตั้งเป้าจะขยายกลุ่มลูกค้าในปีนี้ แผนงานในครึ่งปีแรกเตรียมประมูลงานไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้เงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ 1,404 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มกราคมปีนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ขยายธุรกิจใหม่ และเสริมฐานทุนให้แข็งแกร่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,193.67 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 200.86 ล้านบาท โดยรายได้หลักร้อยละ 99.82 แบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการ 1,300.80 ล้านบาท รายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 881.78 ล้านบาท รายได้จากการขาย 11.09 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท สำหรับปี 2564 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 1 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท เป็นเงิน 166,500,000 บาท เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 และ ครั้งที่ 2 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผล ระหว่างกาลจากกําไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 1.76 บาท เป็นเงิน 390,720,000 บาท เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 และกําหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 สำหรับสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565