MSCI เขี่ย “หุ้นรัสเซีย” พ้นตลาดเกิดใหม่ 9 มี.ค. ลุ้น “ฟันด์โฟลว์” ไหลเข้าไทย 4.6 พันลบ.

MSCI ประกาศถอด “หุ้นรัสเซีย” ออกจากดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ มีผล 9 มี.ค.65 ชี้อยู่ในภาวะที่ “ไม่น่าลงทุน” เหตุถูกหลายประเทศคว่ำบาตร หลังเดินหน้าบุกยึด “ยูเครน” ลุ้น "ฟันด์โฟลว์" ไหลเข้าไทย 4.6 พันลบ.


บริษัท MSCI ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นระดับโลก ประกาศปรับสถานะดัชนีตลาดหุ้นรัสเซีย โดยถอดตลาดหุ้นรัสเซียออกจากการคำนวณในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (MSCIMSCI Emerging Markets Indexes) และปรับให้อยู่กลุ่ม “Standalone Markets” โดย MSCI ระบุว่า ตลาดหุ้นรัสเซียอยู่ในภาวะไม่น่าลงทุน หลังจากที่รัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตรอันเนื่องมาจากการใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

“MSCI ได้ทำการรวบรวมความคิดเห็นจากนักลงทุนจำนวนมากในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้ถือครองสินทรัพย์, ผู้จัดการสินทรัพย์ และโบรกเกอร์ เรามีการแลกเปลี่ยนความเห็นและปรึกษาหารือกัน จนนำไปสู่ข้อสรุปว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นรัสเซียอยู่ในภาวะที่ไม่น่าลงทุน (Uninvestable) และเราเห็นสมควรที่จะถอดตลาดหุ้นรัสเซียออกจากการคำนวณในดัชนี MSCI Emerging Markets Indexes โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังตลาดหุ้นปิดทำการ ณ วันที่ 9 มี.ค. 2565 ” MSCI ระบุในแถลงการณ์

ทั้งนี้ตลาดการเงินของรัสเซียทรุดตัวลงอย่างหนักนับตั้งแต่รัสเซียตัดสินใจใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุกรานประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลให้บรรดาชาติตะวันตกซึ่งรวมถึงสหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย สำหรับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียล่าสุดนั้น รัฐบาลสหรัฐออกคำสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียใช้น่านฟ้าสหรัฐ โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (3 มี.ค.)

ขณะที่ก่อนหน้านี้นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินภาพ SET Index เดือนมีนาคมเคลื่อนไหวไปตามพัฒนาการของ 4 ปัจจัยหลัก ซึ่งได้แก่ 1. Geopolitical risk ระหว่างรัสเซียและยูเครน 2. แนวนโยบายการเงินของ Fed  3. ทิศทางของเศรษฐกิจไทย และ 4. ความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจถูกถอดออกจากดัชนี MSCI EM

โดยความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจถูกถอดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Market (MSCI EM) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะทำให้เห็นเม็ดเงิน Fund flow ไหลเข้าสู่ประเทศ EM อื่นๆ ได้ ซึ่งตลาดหุ้นไทยถือเป็นหนึ่งในนั้น โดยจากการคำนวณของทรีนีตี้ ล่าสุดพบว่า หากเกิดกรณีดังกล่าว น้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM นี้จะขยับสูงขึ้นจาก 1.85% สู่ระดับ 1.89% คิดเป็นเม็ดเงินไหลเข้าราว 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4,600 ล้านบาท หากอิงกับเม็ดเงินลงทุนที่อิงอยู่กับดัชนี MSCI EM ราว 3.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

Back to top button