WTI ปิดพุ่ง 7% ทะลุ 115 เหรียญ วิตกสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” กระทบอุปทาน

WTI ปิดพุ่ง 7.40% แตะ 115.68 เหรียญ หลังการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานพลังงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 มี.ค.2565) เนื่องจากการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานพลังงาน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 8.01 ดอลลาร์ หรือ 7.40% ปิดที่ 115.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 26.30%

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 7.65 ดอลลาร์ หรือ 6.90% ปิดที่ 118.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 25.50%

โดยราคาน้ำมันทะยานขึ้น ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาด โดยในขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปนั้น ชาติตะวันตกได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่บริษัทของตะวันตกจำนวนมากขึ้นถอนการทำธุรกิจออกจากรัสเซีย

ทั้งนี้ยูนา พาร์ค-ฮีเกอร์ นักวิเคราะห์ของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปทานพลังงาน

สำหรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเมื่อวันพุธ (2 มี.ค.2565) ว่า มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย. แม้มีความวิตกเกี่ยวกับอุปทานท่ามกลางวิกฤตยูเครนก็ตาม

ส่วนคาร์สเทน ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช ระบุว่า “โอเปกพลัสได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่เพิ่มกำลังผลิตไม่เพียงพอต่อการรองรับความต้องการของตลาด”

Back to top button