สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามในยูเครน แม้มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,614.80 จุด ลดลง 179.86 จุด หรือ -0.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,328.87 จุด ลดลง 34.62 จุด หรือ -0.79% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,313.44 จุด ลดลง 224.50 จุด หรือ -1.66%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันศุกร์ (4 มี.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก หลังมีรายงานข่าวว่าโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ท่ามกลางการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างทหารของยูเครนและรัสเซีย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 421.78 จุด ร่วงลง 15.58 จุด หรือ -3.56% และร่วงลง 7% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในเดือนมี.ค. 2563
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,061.66 จุด ร่วงลง 316.71 จุด หรือ -4.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,094.54 จุด ร่วงลง 603.86 จุด หรือ -4.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,987.14 จุด ร่วงลง 251.71 จุด หรือ -3.48%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันศุกร์ (4 มี.ค.) และปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,987.14 จุด ร่วงลง 251.71 จุด หรือ -3.48% และร่วงลง 6.4% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานพลังงาน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 8.01 ดอลลาร์ หรือ 7.4% ปิดที่ 115.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 26.3%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 7.65 ดอลลาร์ หรือ 6.9% ปิดที่ 118.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 25.5%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 30.7 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 1,966.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 4.2%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 57.7 เซนต์ หรือ 2.29% ปิดที่ 25.789 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 36 ดอลลาร์ หรือ 3.33% ปิดที่ 1,116.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 251.10 ดอลลาร์ หรือ 9.2% ปิดที่ 2,981.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.88% แตะที่ 98.6460
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2742 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2681 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.77 เยน จากระดับ 115.42 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9182 ฟรังก์ จากระดับ 0.9190 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0913 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1062 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3219 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3337 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7326 ดอลลาร์สหรัฐ