GUNKUL ตั้งเป้าอีบิทด้าปี 65 โต 35% กางแผน 3 ปี ทุ่มงบ 2 หมื่นลบ. ขยายธุรกิจ
GUNKUL ตั้งเป้าอีบิทด้าปี 65 โต 35% กางแผน 3 ปี ทุ่ม 2 หมื่นลบ. เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานทดแทน- ธุรกิจกัญชง-กัญชา และงานก่อสร้างโรงงาน และคลังสินค้า ปักธงรายได้โตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 มี.ค.2565 ว่า กลุ่ม GUNKUL เล็งเห็นการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ได้วางงบลงทุนในระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเฉลี่ยประมาณ 7,000-8,000 ต่อปี โดยแบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนขนาด 400-500 เมกะวัตต์ รวมทั้งลงทุนในธุรกิจกัญชง 2,000 ล้านบาท ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยวางเป้าหมายการเติบโตรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ส่วนปีนี้ตั้งเป้า EBITDA โตราว 30-35%
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์
ส่วนธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ปีนี้มีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะนำ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL และถือหุ้นใน บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภาย ไตรมาส 1 ปี 2566
ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชา การเพาะปลูกและโรงสกัดยังดำเนินการได้ตามแผน ซึ่งประมาณต้นเดือนเมษายนนี้ บริษัทฯ จะเตรียมเปิดคลินิกแพทย์แผนไทยเพื่อให้บริการลูกค้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชาปลายน้ำ ครบวงจร ณ อาคาร Pearl Bangkok ชั้น 2 ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และเข้ารับบริการได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565
ด้านธุรกิจ “โกดังไฟฟ้าดอทคอม” ตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ร่วมมือกันระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของ GUNKUL กับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ด้วยแนวคิด Add Energy To Cart จากการเปิดตัวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน มียอดขายเป็นที่น่าพอใจเกินเป้าและคาดว่าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
“นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ทุกอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายและต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้ ในส่วนของ GUNKUL ก็เผชิญกับความท้าทายเช่นกัน แต่สิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจคือสามารถขับเคลื่อนและเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564) ถือได้ว่าแข็งแกร่งมากโดยมีผลกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่มีกำไรสุทธิ 2,229.27 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,868.13 ล้านบาท” ดร.สมบูรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะกำไรสุทธิที่ไม่รวมกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย และกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ ในปี 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,063.10 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 90 ซึ่งถือว่ากำไรปกติของธุรกิจเติบโตขึ้น 90% โดยหากนับรวมกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนจะแสดงจำนวน 3,425 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2564 จากกำไรในปีและกำไรสะสม ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น