กองทัพ “รัสเซีย” ยิงขีปนาวุธถล่ม “รพ.เด็กยูเครน” บาดเจ็บ 17 ราย
กองทัพ รัสเซีย ยิงขีปนาวุธถล่ม โรงพยาบาลเด็กยูเครน และโรงพยาบาลผดุงครรภ์ในยูเครน เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 17 ราย โดยโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง เพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มีนาคม 2565) อ้างอิงจากสำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางการยูเครนออกมาแถลงว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธใส่ โรงพยาบาลผดุงครรภ์ และ โรงพยาบาลเด็กในเมือง มารียูปอล โดยการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง เพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่
สำหรับเบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 17 ราย นอกจากนี้ทางนายกเทศมนตรีของเมือง มารียูปอล ระบุว่านอกจากโรงพยาบาลแล้ว พื้นที่โดยรอบยังได้รับความเสียหายอีกด้วย โดยนายกเทศมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับทาง BBC ว่า พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่ารัสเซียเลือกจะยิงโรงพยาบาลเด็ก
ทั้งนี้นาย โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมาประณามการโจมตีในครั้งนี้ พร้อมระบุว่าสิ่งที่กองทัพรัสเซียทำเป็นอาชญากรรมทางสงคราม พร้อมตั้งคำถามว่ารัสเซียต้องเป็นประเทศแบบไหนที่กลัวแม้กระทั่งโรงพยาบาลเด็กเมือง มารียูปอล นั้นตกอยู่ใต้การปิดรอบนานหลายวัน และมีรายงานว่าประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ และขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร ซึ่งทางการยูเครนพยายามอพยพประชาชนหลายครั้ง แต่การอพยพล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง
โดยเบื้องต้นนายกเทศมนตรีเมืองมารียูปอลระบุว่ามีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวน 1,170 ศพ ทั้งนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศไม่สามารถยืนยันตัวเลขนี้ได้
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของเทศบาลหลายคนออกมาโพสต์ภาพนิ่งและวิดีโอความเสียหายที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมีเดีย และมีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บเบื้องต้น 17 ราย แต่รายงานข่าวในพื้นที่ระบุมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว ขณะที่สหราชอาณาจักร ระบุว่าเป็นเรื่องน่าขยะแขยง โดยมาริอูโปลคือ 1 ใน 6 พื้นที่ที่รัสเซียบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่อให้พลเรือนได้หนีออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ยูเอ็นและองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยังเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีหน่วยงานให้บริการเพื่อสุขภาพ โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพ และรถพยาบาลในทันที
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเทศบาลเมืองมาริอูโปล ประเมินว่ามีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,170 คน จากการระดมโจมตีมาหลายวันของกองกำลังรัสเซียในเมืองนี้ และมีรายงานว่าตามท้องถนนของเมืองนี้เต็มไปด้วยศพของผู้เสียชีวิต ส่วนห้องดับจิตของโรงพยาบาล และสุสานไม่มีที่พอเก็บศพ จนทางการต้องขุดหลุมขนาดใหญ่เพื่อฝังร่างผู้เสียชีวิต
ด้านปธน.เซเลนสกี ได้กล่าวหาว่า รัสเซียได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เครื่องบินรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กของยูเครนเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากถูกฝังอยู่ภายใต้ซากอาคาร แม้รัสเซียและยูเครนได้ทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชนในเมืองมาริอูโพลแล้วก็ตาม
โดยทางการยูเครนระบุว่า การโจมตีดังกล่าวซึ่งส่งผลให้สตรีที่เพิ่งคลอดบุตรหลายคนได้รับบาดเจ็บ และทำให้เด็กจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ภายใต้ซากอาคารนั้น ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดที่เกิดขึ้น หลังจากกองกำลังรัสเซียบุกโจมตียูเครนล่วงเข้าวันที่ 14 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุกรานประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้สภาเมืองมาริอูโพลเปิดเผยว่า โรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ได้ถูกโจมตีแล้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำเนียบขาวของสหรัฐมองว่าเป็นการใช้กำลังทหารอย่างป่าเถื่อนเพื่อไล่ล่าชีวิตพลเรือนที่บริสุทธิ์
สำหรับปธน.เซเลนสกีได้ย้ำข้อเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียในระดับที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อให้รัสเซียยอมนั่งโต๊ะเจรจาและยุติสงครามที่โหดร้าย พร้อมกับกล่าวว่า การทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า รัสเซียต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน
ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “กองกำลังทหารรัสเซียไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน พร้อมกับกล่าวว่า การโจมตียูเครนถือเป็นปฏิบัติการพิเศษเพื่อให้มีการปลดอาวุธ
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้เผยแพร่ภาพวิดีโอซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาคาร 3 ชั้นของโรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ส่วนหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN) กำลังตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลเด็กดังกล่าว
ขณะเดียวกันลิซ ธรอสเซลล์ โฆษกหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของ UN กล่าวว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธโดยมิชอบในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ และทำให้มีพลเรือนต้องติดอยู่ในหลายพื้นที่ซึ่งมีการสู้รบ”