PRINC อัดงบ 300 ลบ. ซื้อ “ผิวดีคลินิก” ลุยธุรกิจเสริมความงาม ปักธงปี 68 ขยาย 7 สาขา
บอร์ด PRINC ไฟเขียวจัดงบ 302.50 ลบ. ซื้อกิจการ “ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์” ขยายธุรกิจบริการด้านผิวพรรณ ศัลยกรรมความงามและการดูแลสุขภาพ ตั้งเป้าปี 68 ขยายอีก 7 สาขา
บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด บริษัทในเครือ PRINC เข้าลงทุนในบริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ PEWDEE Clinic โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ขายเป็นเงินจำนวน 252.5 ล้านบาท และจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผิวดีคลินิกเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 302.5 ล้านบาท ซึ่งมีผลทำให้บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็น 55% ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ PEWDEE Clinic มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็น 45% และบริหารงานร่วมกัน เพื่อขยายธุรกิจให้บริการด้านผิวพรรณ ศัลยกรรมความงามและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ PRINC กล่าวถึงเหตุผลที่ขยายธุรกิจสู่คลินิกเสริมความงาม เนื่องจากจุดแข็งของเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ โดยเฉพาะการให้บริการทางการแพทย์ที่สามารถต่อยอดจากลูกค้าฐานผู้ใช้บริการเดิม ประกอบกับพื้นที่ตั้งของโรงพยาบาลในหัวเมืองสำคัญ เช่น นครสวรรค์, พิษณุโลก, อุบลราชธานี ฯลฯ ยังมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งภาพรวมอัตราการเติบโตในธุรกิจในธุรกิจคลินิกเสริมความงาม โดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังโตได้ดี คาดการณ์เติบโตในการการเติบโตของผิวดีคลินิก (EBITDA) เฉลี่ยที่ 28.8% ต่อปี คาดการณ์รายได้ปี 2565 ประมาณ 190 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้ช่วงก่อนโควิด-19 จากสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะขยายเข้าสู่ธุรกิจคลินิกเสริมความงาม โดยต่อยอดจากธุรกิจหลักคือการบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน และตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งการกระจายรายได้เข้าสู่ธุรกิจคลินิกเสริมความงามและเวลเนสนี้ จะสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน
“สถานการณ์โดยรวมเศรษฐกิจ ภาพรวมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มารับการรักษาพยาบาลในไทย และสถานการณ์การระบาดโควิดโอไมครอนจะทยอยดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ประกอบกับเตรียมขยายธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอางค์ ภายใต้แบรนด์ “ผิวดีคลินิก” เป็นอีกตัวธุรกิจใหม่ที่เสริมที่จะมาเสริมและกระจายความเสี่ยงจากรายได้ให้ธุรกิจหลัก อย่างธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน มียังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายธานี กล่าว
ขณะที่ แพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ อาจารย์แพทย์ และผู้บริหาร บริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ “ผิวดีคลินิก” (PEWDEE Clinic) กล่าวว่า ความร่วมมือการลงทุนครั้งสำคัญนี้ จะทำให้ “ผิวดีคลินิก” ขยายฐานขยายฐานลูกค้าผู้ใช้บริการไปต่างจังหวัด และตอกย้ำจุดแข็งของผิวดีคลินิกที่ให้บริการดูแลรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เรามีความเชี่ยวชาญด้านหัตถการด้านเลเซอร์ โดยได้การการันตีประสบการณ์การรักษาฝ้าและจุดดำ รางวัลอันดับที่ 1 ในระดับภาคพื้นเอเชีย The Luminary Gem Award 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน
“ผิวดีคลินิก ภายใต้การร่วมบริหารงานกับทีมผู้บริหารจากเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ เราเตรียมต่อยอดไปสู่การให้บริการการดูแลรักษาด้านเวลธ์เนส (Wellness) เมื่อมีพาร์ทเนอร์เป็นโรงพยาบาล ทำให้คลินิกสามารถส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการดูแลรักษาด้านผิวหนังเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลได้ เป็นอีกจุดแข็งด้านเครือข่ายการดูและรักษาที่จะทำให้เราเข้าถึงฐานลูกค้าทั่วประเทศ และตรงกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เมื่อผู้ใช้บริการมีปัญหาด้านผิว เข้ามารับการดูแลรักษา เราจะต้องแก้ไขปัญหาเขา เพื่อทำให้เขาดูดีขึ้น หรือหายขาดจากโรคผิวหนังนั้นๆให้ได้”, แพทย์หญิงกุหลาบ กล่าว
ทั้งนี้นอกจากแนวทางการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นอย่างห้างสรรพสินค้าแล้ว บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ในเครือ PRINC มีแผนขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่โรงพยาบาลในเครือฯ อีกอย่างน้อย 4 แห่ง ได้แก่ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (ย่านบางนา กม.7) คาดพร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนเมษายน 2565 และคาดเปิดให้บริการภายในปีหน้า (2566) ได้แก่ รพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ (จ.นครสวรรค์), รพ.พิษณุเวช (จ.พิษณุโลก) และรพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี (จ.อุบลราชธานี)
โดยตั้งเป้าขยายสาขาทั้งหมดรวมทั้งหมด 7 แห่งภายในปี 2568 จากปัจจุบัน ผิวดีคลินิก (PEWDEE CLINIC) มีทั้งหมด 10 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน (SIAM PARAGON), ศูนย์การค้าไอคอน สยาม (ICON SIAM), เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และปิ่นเกล้า