สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดในวันพุธ (16 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,063.10 จุด เพิ่มขึ้น 518.76 จุด หรือ +1.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,357.86 จุด เพิ่มขึ้น 95.41 จุด หรือ + 2.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,436.55 จุด เพิ่มขึ้น 487.93 จุด หรือ +3.77%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันพุธ (16 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนสัญญาที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 448.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.33 จุด หรือ +3.06% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,588.64 จุด เพิ่มขึ้น 233.64 จุด หรือ +3.68%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,440.74 จุด เพิ่มขึ้น 523.47 จุด หรือ +3.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.68 จุด เพิ่มขึ้น 115.98 จุด หรือ +1.62%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (16 มี.ค.) สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากแนวโน้มการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.68 จุด เพิ่มขึ้น 115.98 จุด หรือ +1.62%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 มี.ค.) หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 95.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 98.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์ในวันพุธ (16 มี.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20.5 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 1,909.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 44.8 เซนต์ หรือ 1.78% ปิดที่ 24.71 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,008.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 44.70 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 2,367.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลและกลับเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.48% แตะที่ 98.6230 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1007 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0943 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3119 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7265 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7190 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 118.70 เยน จากระดับ 118.32 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9424 ฟรังก์ จากระดับ 0.9420 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2722 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2781 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button