CPF ยกระดับการเลี้ยงปลา รูปแบบ “CARE Aquaculture Model”

CPF ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงปลา รูปแบบ “CARE Aquaculture Model” เพื่อผลิตอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตลอดจนคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงปลาด้วยรูปแบบ CARE Aquaculture Model โดยนำหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) ที่ใส่ใจต่อสุขภาพสัตว์ เพื่อผลิตเป็นอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตลอดจนคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำครบวงจร CPF กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในด้านสวัสดิภาพสัตว์ในการเลี้ยงปลา ตั้งแต่การส่งมอบลูกปลา การเลี้ยงปลาเนื้อ และการจับผลผลิตปลา จนส่งมอบถึงมือผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่การผลิตลูกปลาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ใส่ใจในการส่งมอบลูกปลาจนถึงฟาร์มเกษตรกรด้วยรถควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม มีขั้นตอนการลงปลาที่นุ่มนวล ไม่ให้เกิดการบอบช้ำ โดยก่อนการลงลูกปลาได้มีการเตรียมคุณภาพน้ำให้เหมาะสมกับปลา ทำให้ลูกปลาที่ลงเลี้ยงมีสุขภาพดี

นอกจากนี้ในระหว่างการเลี้ยงมีการจัดการด้านคุณภาพน้ำให้มีคุณภาพดีตลอดเวลา มีระบบการหมุนเวียนกลับมาใช้คุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงจึงไม่เปลี่ยนแปลง มีการใช้เครื่องให้อากาศเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำให้เพียงพอ ทำให้ปลาสุขสบายและมีสุขภาพแข็งแรง และยังนำโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มาใช้ในน้ำเลี้ยงและอาหาร

อีกทั้งได้ใช้อาหารปลาสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสูง มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในทุกช่วงอายุ  สอดคล้องกับการเลี้ยงปลาในรูปแบบ CARE Aquaculture Model ซึ่งประกอบด้วย C – Consumer Need คือ การผลิตที่ใส่ใจความต้องการของผู้บริโภค A – Achieve Easily and Consistently เป็นระบบที่ง่ายต่อการเลี้ยง สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง R – Reliable System ผลผลิตมีคุณภาพ แน่นอน และ E – Environmental Friendly รวมถึงระบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

สำหรับขั้นตอนของการจับและการส่งมอบเพื่อจำหน่าย CPF มีเครื่องมือและเทคโนโลยีในการจับปลาโดยการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมทำให้ปลาสงบนิ่ง สามารถจับได้อย่างนุ่มนวลไม่ทำให้ปลาบอบช้ำ จึงไม่เกิดความเครียดระหว่างการขนส่งสู่ตลาด ส่งผลให้ได้เนื้อปลาคุณภาพดีเหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป

ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ  รวมทั้งในทุกขั้นตอนการเลี้ยงจะคำนึงถึงเรื่องประหยัดพลังงาน การรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ชุมชน ผู้บริโภค และประเทศชาติอย่างยั่งยืน” นายไพโรจน์ กล่าว

Back to top button