BC ปลื้ม! หุ้นเพิ่มทุน “RO” ผถห.จองซื้อล้น 261% เน้นลุยธุรกิจอสังหาฯ-กัญชา

BC ปลื้ม หุ้นเพิ่มทุน RO ผู้ถือหุ้นจองซื้อสิทธิสูงสุดถึง 261% พร้อมลุยลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รุกธุรกิจกัญชาเพื่อสุขภาพ ตอกย้ำผู้นำในตลาดที่ภาพชัดเจนที่สุด


บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 150,700,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) แบ่งเป็น จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 100,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือ (Right Offering : RO) และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 50,700,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP)

โดยการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเมื่อรวมกันแล้วจะไม่เกิน 100,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 19.7 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ณ วันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้มีการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดจองซื้อขายหุ้นเพิ่มทุน RO ในอัตราการจองซื้อ 5.1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (5.1:1) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.80 บาท ในระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

ขณะที่ผลปรากฏว่ามีอัตราการใช้สิทธิรวม 58.8% จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายเรียบร้อยแล้ว นำโดยครอบครัวทักราล ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แสดงความเชื่อมั่นจองซื้อในสัดส่วน 69.7% ของสิทธิที่มี และมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมีอัตราการใช้สิทธิ รวมส่วนที่จองซื้อเกินสิทธิ 35.1% ของสิทธิ ซึ่งบริษัทฯ ถือว่าเป็นอัตราการใช้สิทธิโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับการเพิ่มทุนของหลักทรัพย์อื่นๆ

สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มาใช้สิทธิ ส่วนใหญ่จองซื้อตามสิทธิ หรือเกินกว่าสิทธิที่มี โดยผู้ถือหุ้นที่มีการจองเกินสิทธิ คิดเป็นสัดส่วน 35.3% ของสิทธิรวมของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มาใช้สิทธิ โดยมีการจองซื้อเกินกว่าสิทธิคิดเป็น 260.1% หรือ 2.6 เท่า ของสิทธิที่มี หรือเกินสิทธิไป 1.6 เท่า

ด้าน นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจบริษัทฯ โดยการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) เพื่อสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีความคล่องตัวและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย

ทั้งนี้บริษัทฯ โฟกัส 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในโมเดลธุรกิจแบบใหม่ ปัจจุบัน มีแผนเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รับสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัว และธุรกิจกัญชาภายใต้บริษัทในเครือ บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด มีความคืบหน้า หลังจากที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่บริษัทในเครือ “บีสโปค” มีความร่วมมือ ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตมากที่สุดในประเทศไทย โดยในช่วงกลางปีนี้เตรียมเปิดตัวคลินิกกัญชาเพื่อสุขภาพระดับไฮเอนด์แห่งแรก ที่อาคารซัมเมอร์ พอยท์ บนถนนสุขุมวิท และวางแผนขยายธุรกิจเพื่อสุขภาพนี้ไปยังโครงการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ตอบสนองต่อเทรนด์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Medical and Wellness Tourism

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนดังกล่าวจำนวนประมาณ 106 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งลงทุนในโครงการโรงแรมและในธุรกิจกัญชาเพื่อสุขภาพ ตามแผนธุรกิจที่วางไว้  เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

Back to top button