AYUD เข้าซื้อ “เอ็ทน่าไทย” มูลค่า 3.1 พันลบ. หวังขยายฐาน-เพิ่มช่องทางขาย

AYUD เข้าซื้อบริษัท “กลุ่มเอ็ทน่า” ในไทย มูลค่า 3,140 ลบ. หวังขยายฐานลูกค้าและช่องทางจำหน่ายของบริษัทย่อย หนุนศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ


บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AYUD เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 23 มี.ค.65 ได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565ของบริษัท ให้พิจารณาอนุมัติเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 100 ของบริษัท กลุ่มเอ็ทน่า ซึ่งประกอบกิจการในประเทศไทย และบริษัทโฮลดิ้งของบริษัทดังกล่าวในประเทศไทย จาก Aetna Global Holding Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งและจดทะเบียนในประเทศอังกฤษและเวลส์ (ผู้ขาย) ในราคาซื้อขายเบื้องต้นจำนวน 3,140 ล้านบาท

โดยอ้างอิงจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (netasset value) ของบริษัท เอ็ทน่าในประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งบริษัทจะชำระเป็นเงินสดในวันที่มีการโอนหุ้น

ทั้งนี้ ราคาซื้อขายดังกล่าวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สะท้อนมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (net asset value) ของบริษัทเอ็ทน่าในประเทศไทยในช่วงระยะเวลาใกล้กับวันที่จะมีการซื้อขายหุ้น

สำหรับบริษัทเอ็ทน่าในประเทศไทย ประกอบด้วย

1.บริษัทที่ประกอบกิจการสองบริษัท ได้แก่ บริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (AHI) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการประกันวินาศภัย และบริษัท เอ็ทน่า เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (AST) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการคลินิกรักษาโรคทั่วไปสำหรับผู้ป่วยนอก

2.บริษัทโฮลดิ้งสามบริษัท ได้แก่ บริษัท เอ็ทน่า โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (AHL), บริษัท การจัดการสุขภาพอนามัย จำกัด (HCM), บริษัท ไมเนอร์ เฮลท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (MHE)

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) กับผู้ขาย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 ในการดำเนินการตามแผนการเข้าซื้อหุ้นต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2565 โดยแก้ไขเปลี่ยนแปลง Record Date เพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งเดิมได้กำหนดเป็นวันที่ 1เมษายน 2565 ให้เป็นวันที่ 7 เมษายน 2565 คาดว่าจะดำเนินการซื้อหุ้นตามแผนการเข้าซื้อหุ้นได้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2565

โดยในการดำเนินการตามแผนการเข้าซื้อหุ้น บริษัทฯ จะลงทุนในหุ้นของบริษัทเอ็ทน่าในประเทศไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยบริษัทฯ จะรับโอนหุ้นดังต่อไปนี้

(1) หุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้นของ AHI (คิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดของ AHI โดยประมาณ) ซึ่งจะรับโอนจากผู้ขาย (หุ้นสามัญจำนวน 49,998 หุ้น) Aetna Global Benefits (Bermuda) Limited (AGB) (หุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น) นางสาววิริยาภา พุทธสัมฤทธิ์ (หุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น) และ นางพรทิพย์ จุลชาต (หุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น)

(2) หุ้นบุริมสิทธิจำนวน 510 หุ้น และหุ้นสามัญจำนวน 490 หุ้นของ AHL (คิดเป็นร้อยละ100 ของหุ้นทั้งหมดของ AHL) ซึ่งจะรับโอนจากผู้ขาย (หุ้นสามัญจำนวน 489 หุ้น) AGB (หุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น) และนายไพบูลย์ สุตันติวรคุณ (หุ้นบุริมสิทธิจำนวน 510 หุ้น)

(3) หุ้นสามัญจำนวน 5,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 1 หุ้นของ MHE (คิดเป็นร้อยละ25 ของหุ้นทั้งหมดของ MHE โดยประมาณ) ซึ่งจะรับโอนจากผู้ขาย และ AGB ตามลำดับ

(4) หุ้นสามัญจำนวน 58,800 หุ้นของ HCM (คิดเป็นร้อยละ 49 ของหุ้นทั้งหมดของ HCM โดยประมาณ) ซึ่งจะรับโอนจากผู้ขาย (หุ้นสามัญจำนวน 58,799 หุ้น)และ AGB (หุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น)และ

(5) หุ้นสามัญจำนวน 2 หุ้นของ AST ซึ่งจะรับโอนจากผู้ขาย และ AGB

โดยบริษัทคาดว่าแผนการเข้าซื้อหุ้นจะทำให้บริษัทและผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้ การขยายฐานลูกค้าและช่องทางจำหน่ายของบริษัทย่อย จากการได้ลูกค้าปัจจุบันของ AHI ซึ่งประกอบด้วย ลูกค้าองค์กรธุรกิจ ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และลูกค้าบุคคลธรรมดา การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจประกันสุขภาพในประเทศไทย ก่อให้เกิดการประสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ (Synergy) อย่างมีนัยสำคัญ และการประหยัดต้นทุนการดำเนินงานจากขนาดการดำเนินงาน (Economies of Scale)

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนควบรวม AHI กับ AAGI ภายในระยะเวลา 2 ปี ภายหลังจากการซื้อขายหุ้นตามแผนการเข้าซื้อหุ้น ทั้งนี้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าบริษัทจะได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

Back to top button