ZEN มั่นใจปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” วางเป้ารายได้โต 30% แตะ 3 พันลบ. รับศก.ฟื้น

ZEN มั่นใจปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” วางเป้ารายได้โต 30% แตะ 3 พันลบ. รับศก.ฟื้น ทุ่มงบ 250 ลบ. ขยายกำลังการผลิตซอส-ปรับปรุงร้านอาหารเดิม เพื่อสร้างโอกาสเติบโตต่อเนื่อง


นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการปี 65 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 91.57 ล้านบาท เนื่องจากตั้งเป้ารายได้ในปีนี้จะฟื้นมาแตะ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,255.32 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20%

แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้มีอาการรุนแรงเหมือนกับสายพันธุ์ก่อนหน้า ส่งผลให้การใช้ชีวิตของประชาชนและกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าจะไม่ใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) อีก จึงช่วยหนุนให้ประชาชนกลับมาทานอาหารในร้านสาขาของบริษัทมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมสร้างยอดขายใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการต่อยอดร้านอาหารแบรนด์ “เขียง” เพิ่มมากขึ้น ทั้งเขียงแกงใต้ และเขียงเล็ก (ร้านรถเข็น) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากการลงทุนโรงงานผลิตซอส ZKC’s ซึ่งเดิมเป็นซัพพลายเออร์ซอสปรุงรสให้กับบริษัท ภายใต้สัดส่วนถือหุ้นที่ 51% เข้ามาได้อย่างเต็มปี โดยในช่วงเดือน ก.พ.65 ที่ผ่านมาบริษัทได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายกับ บริษัท เดอเบล จำกัด (DURBELL) ทำให้จากนี้จะสามารถขยายสินค้าไปได้ครอบคุลมทุกจังหวัด รวมถึงคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท King Marine (KMF) ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่าย ปลาแซลมอน แอตแลนติกโฟรเซ่น ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น 51% เข้ามาด้วย

ในปี 65 บริษัทได้วางงบลงทุนราว 250 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตในโรงงานผลิตซอสให้เพียงพอรองรับกับการขยายตลาดทั่วประเทศ รวมไปถึงการขยายสาขาและปรับปรุงร้านอาหารเดิม ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการควบรวมกิจการ (M&A) และร่วมทุน (JV) กับผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะที่เป็นรายย่อย (SMEs) ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้รายย่อย รวมถึงกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทในการรับรู้รายได้จากหลากหลายธุรกิจ

ด้านผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/65 มีการเติบโตกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อกลับมาฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาส 4/65 มองว่ายอดขายโดยรวมอาจลดลงเล็กน้อย เพราะไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีช่วงเทศกาลต่างๆ ในช่วงปลายปีทำให้มียอดการใช้จ่ายที่สูงกว่า

Back to top button