“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” เด้ง 260 จุด คลายกังวลเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันดิบร่วง
“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” ดีด 260 จุด หลังราคาน้ำมันปรับลง ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวกว่า 260 จุดในวันนี้ หลังราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพในวันนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี
โดย ณ เวลา 23:10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 260 จุด หรือ 0.76% สู่ระดับ 34,511 จุด
สำหรับดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 400 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนราคาน้ำมัน WTI, เบรนท์เริ่มมีเสถียรภาพในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยว่าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านมีความคืบหน้า ซึ่งจะปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมฉุกเฉินขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันนี้เพื่อหามาตรการตอบโต้รัสเซียจากการที่ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของ 3 กลุ่มในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การประชุมนาโต, การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 และการประชุมสหภาพยุโรป (EU)
นอกจากนี้ปธน.ไบเดนยังมีกำหนดเดินทางเยือนโปแลนด์ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงวอชิงตันในวันเสาร์
สำหรับกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 28,000 ราย สู่ระดับ 187,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2512 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
อีกทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 67,000 ราย สู่ระดับ 1.35 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2513