“บิ๊กตู่” สั่ง “ผู้ว่าฯ – สสจ.” คุมเข้มกิจกรรมช่วงสงกรานต์

นายกรัฐมนตรี กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด และ สสจ. เตรียมพร้อมมาตรการประชาชนเดินทางท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ในสถานการณ์ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอยู่ต่อเนื่อง


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทุกพื้นที่ เตรียมพร้อมมาตรการรองรับ ประชาชนที่จะเดินทางข้ามจังหวัด ทั้งกรณีเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอยู่ต่อเนื่อง

โดยทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารสุขอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการไปพบปะผู้สูงอายุ ร่วมกิจกรรมตามประเพณีและการรวมกลุ่มในครอบครัว เช่น การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา, งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิด, จัดกิจกรรมให้มีการระบายอากาศได้ดี, หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน, รวมถึงให้มีการตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด ที่สำคัญคือการที่ต้องให้ผู้สูงอายุ ซึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และรับวัคซีนเข้มกระตุ้นโดยเร็วด้วย

สำหรับการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชน ศาสนสถาน ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ การสรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี ฯลฯ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเฉลิมฉลองของประชาชนทุกคนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างมีความสุข และอยู่พร้อมหน้ากันครอบครัวอย่างอบอุ่นและปลอดภัยจากโควิด-19

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบติดเชื้อรายใหม่ 26,050 ราย มีอาการหนัก 1,619 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 630 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 26.9% เสียชีวิต 69 ราย

โดย 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด กทม. ยังครองแชมป์เป็นอับดับ 1  3,739 ราย รองลงมา นครศรีธรรมราช 1,645 ราย, ชลบุรี 1,090 ราย, สมุทรปราการ 902 ราย, สมุทรสาคร 831 ราย, ร้อยเอ็ด 655 ราย, นนทบุรี 647 ราย,ระยอง 576 ราย, บุรีรัมย์ 556 ราย และปทุมธานี 535 ราย

สำหรับจำนวนผู้ที่ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 – มีนาคม 2565 รวม 128,009,178 โดส แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 55,090,732 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 50,159,831 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 20,734,021 โดส และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 สะสม 2,024,594 โดส

Back to top button