จับตา YGG ซื้อขายทะลัก! “ย่อหรือไป” เพิ่มทุน 360 ล้านหุ้น เข้าเทรดจันทร์นี้
จับตาจันทร์นี้ YGG มูลค่าซื้อขายทะลัก ลุ้นราคาหุ้นบนกระดานปรับตัวลงย่อหรือไปต่อ รับหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 360 ล้านหุ้นเข้าเทรด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2564 อนุมัติเพิ่มทุน 512 ล้านหุ้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วย 1. เพิ่มทุนเพื่อรองรับการจ่ายปันผลเป็นหุ้นจำนวน 62 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 12.11% ของหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด ด้วยอัตราส่วยอยู่ที่ 2.903 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล
รวมทั้ง 2. เพิ่มทุนรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ (YGG-W1) จำนวน 90 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 17.58% ของหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด ราคาใช้สิทธิ 12 บาท อัตราใช้สิทธิ 1 หุ้นสามัญ ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ และ 3. ออกหุ้นเพิ่มทุนโดยให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 360 ล้านหุ้น ที่ราคาเพิ่มทุน 0.50 บาท เทียบเท่ากับราคาพาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70.31% ของหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด
โดยวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนเป็นเพียงให้ฐานทุนขยายใหญ่ขึ้นเพื่อจะย้ายเข้าไปสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จากเดิมที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
ทั้งนี้สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาในวันจันทร์ที่ 28 มี.ค. 2565 จะมีจำนวนหุ้น 360 ล้านหุ้นเข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก และหากรวมจำนวนหุ้นเดิมที่ YGG มีอยู่ที่ 180 ล้านหุ้น และหุ้นที่มาจากการปันผลเป็นหุ้นเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 อีกจำนวน 62 ล้านหุ้นจะส่งผลให้ YGG มีจำนวนหุ้นเพิ่มอีก 242 ล้านหุ้น ดังนั้น YGG จะมีหุ้นรวมทั้งหมด 602 ล้านหุ้นที่เข้ามาซื้อขายบนกระดานหุ้นตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันในวันที่ 28 มี.ค. 2565 ยังมีจำนวน 90 ล้านหุ้นในส่วนของวอร์แรนต์ YGG-W1 เข้ามาซื้อขายอีกด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของวอร์แรนต์ราคาใช้สิทธิ 12 บาท อัตราใช้สิทธิ 1:1 อายุ 1 ปี ใช้สิทธิ 20 มี.ค. 2566
ทั้งนี้ที่น่าสนใจสำหรับหุ้นเพิ่มทุนของ YGG เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 28 มี.ค. 2565 อยู่ที่เรื่องของราคาหุ้น YGG นั้นจะเคลื่อนไหวในทิศทางใด ซึ่งหากย้อนดูราคาก่อนเสนอขายเป็นน้ำหนักถั่วเฉลี่ย 15 วันทำการย้อนหลังก่อนที่จะมีมติประกาศเพิ่มทุนในวันที่ 12 พ.ย. 2564 โดยราคาจากวันที่ 21 ต.ค.2564- 11 พ.ย. 2564 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6.97 บาท
จนกระทั่งมาถึงวันที่ 15 พ.ย. 2564 หลังจากบอร์ดมีมติเพิ่มทุนราคากลับปรับตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 9.67 บาท ซึ่งเป็นราคาไดลูชั่นแอฟเฟคหลังจากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดแล้วทำให้ต้องคำนวณราคาใหม่ ซึ่งราคาที่เป็นคือเป็นราคา (ราคา adjust) แล้ว
จากนั้นวันที่ 16 พ.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 10.67 บาท ต่อมาวันที่ 18 พ.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 10.98 บาท ถัดมาวันที่ 19 พ.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.21 บาท ขณะที่ 22 พ.ย. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.36 บาท หลังจากนั้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนมาถึงวันที่ 21 ม.ค. 2565 ราคาหุ้นขึ้นไปทำนิวไฮปิดที่ระดับ 12.13 บาท หลังจากมีมติเพิ่มทุนออกมา จนกระทั้งวันสุดท้ายการซื้อขายก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย XR, XW, XD ในวันที่ 10 ก.พ. 2565 ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.20 บาท ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นยกตัวอย่างว่าต้นทุนของนักลงทุนจะอยู่ประมาณเท่าไร
ทั้งนี้เชื่อว่านักลงทุนมีความกังวลว่าวันที่ 28 มี.ค. 2565 ราคาหุ้นจะมีโอกาสปรับตัวลงหลังจากมีจำนวนหุ้นเพิ่มทุนเข้ามาเพราะมีโอกาสกระทบต่อราคาหุ้นด้านไดลูชั่นแอฟเฟค โดย Price Dilution (ผลกระทบต่อราคาหุ้น) จำนวน 65.96% ขณะที่กระทบ Controt Ditution (การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น) จำนวน 13.00% และ Earning per Share Ditution (ผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรต่อหุ้น) จำนวน 73.78%
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจำนวนหุ้นเพิ่มทุนเข้ามาวันแรกราคาหุ้นก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ เพราะหลังจากวันขึ้นเครื่องหมาย XR, XW, XD แล้วราคาหุ้นบนกระดานกลับปิดกระโดดวันถัดไปหลังจากขึ้นเครื่องหมาย และเมื่อถึงวันหุ้นปันผลเข้าเทรดราคาหุ้นก็ยังปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับวันขึ้นเครื่องหมายปรับตัวขึ้น 2%
ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นราคาหุ้น YGG ในวันที่ 28 มี.ค. 2565 จะไดลูทตามหลักการ หรืออาจจะวิ่งสวนดังเช่นก่อนหน้านี้หลังจากขึ้นเครื่องหมายต่างๆ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงหรือขึ้น จากสมมุติฐานราคาเป้าหมายหุ้น YGG ที่ระดับ 13 บาท หากวันนี้ (28 มี.ค.2565) ราคาปรับขึ้นไปที่ 12 บาท จะมีอัพไซด์ 8.33% ในทางกลับกันหากราคาปรับลงมาที่ 11 บาท จะมีอัพไซด์ 18.18% ราคาปรับมาที่ 10 บาท จะมีอัพไซด์ 30.00% ราคาปรับลงมาที่ 9 บาท จะมีอัพไซด์ 44.44% ราคาปรับลงมาที่ 8 บาท จะมีอัพไซด์ 62.50% และหากปรับลงมาถึง 7 บาท จะมีอัพไซด์ 85.71% ถือว่าเป็นโอกาสที่ราคาหุ้นจะมีช่องว่างของราคากว้างมากขึ้นเพื่อให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนได้