SCB 10X ตั้งสำนักงานใหญ่ “เมตาเวิร์ส” บน “The Sandbox” สู่โลกเสมือนจริง
SCB 10X ชูแนวคิดในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ “เมตาเวิร์ส” บน “The Sandbox” เข้าสู่โลกเสมือนจริง สะท้อนความเป็นไทยสู่เวทีสากลและโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดน คาดเปิดเข้าในไตรมาส 4/65
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสนใจและโฟกัสการลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้าน Disruptive Technology ได้แก่ เทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) โดยเฉพาะบล็อกเชน (Blockchain) ที่เกี่ยวกับด้าน Financial Services รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) Web 3.0 และ Metaverse
โดยเล็งเห็นว่า Metaverse และ Web 3.0 จะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่โลกอนาคตเพื่อต่อยอดทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ และช่วยให้สามารถเข้าถึงโอกาสการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัดบนโลกเสมือน ที่ไม่จำกัดเพียงแค่อุตสาหกรรมการเงินเท่านั้น
สำหรับแนวคิดในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ (Headquarters) บน The Sandbox ครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำพันธกิจของบริษัทที่มุ่งมั่นสร้างการเติบโตในรูปแบบใหม่ ๆ ให้แก่องค์กร ผ่านการนำขีดความสามารถทางเทคโนโลยี ตลอดจนความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรของ SCB 10X ผสานกับการร่วมมือเป็นพันธมิตรร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลกเพื่อร่วมกันสร้างชุมชนและระบบนิเวศที่แข็งแกร่งบนโลก Metaverse เตรียมพร้อมรองรับการเติบโตในโลกอนาคต
ด้าน นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด หรือ SCB 10X กล่าวว่า บริษัทมองเห็นโอกาสการเติบโตบนโลก Metaverse อย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการที่หลายบริษัทชั้นนำและแบรนด์ชื่อดังจากทั่วโลกเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งบนโลกเสมือนอย่างต่อเนื่อง
โดยจุดประสงค์หลักที่มีแนวคิดในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ (Headquarters) บน The Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชน คือ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับสร้างรากฐานระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน (Community-Driven) บนโลก Metaverse รวมถึงมุ่งสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินชาวไทยสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับเชื่อมผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมบนโลกเสมือนจริง พร้อมต่อยอดและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ได้ตามจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด โดยแบ่งประโยชน์การใช้สอย 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.Virtual Hub พื้นที่แบ่งปันความรู้ (Event & Knowledge Sharing) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและการมีส่วนร่วม
2.Virtual Land พื้นที่สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจในการทำกิจกรรมร่วมกันและพัฒนาต่อยอดโครงการอื่นๆ ในอนาคต
3.พื้นที่แสดงผลงานและคอนเสิร์ตที่มุ่งสนับสนุนและผลักดันศิลปินชาวไทยสู่ตลาดโลก ในรูปแบบต่างๆ เช่น NFT Gallery เป็นต้น
ส่วนแนวคิดการออกแบบสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงของ SCB 10X ได้สะท้อนภาพความเป็นไทยสู่เวทีสากลและโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดน ผ่านสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งจำลองภาพความเป็นไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ “อดีต” รากฐานอันงดงามของอนาคต “ปัจจุบัน” ประตูสู่เชื่อมเครือข่ายพันธมิตรที่ไม่รู้จบ และ “อนาคต” การเติบโตอันก้าวกระโดดแห่งอนาคต ซึ่งในแต่ละโซนถูกจัดสรรให้มีประโยชน์ใช้สอยแตกต่างกัน โดยสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงของ SCB 10X นับเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแห่งแรกในโลกที่ริเริ่มพัฒนาสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงใน The Sandbox
อย่างไรก็ตาม การสร้างสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงนับเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแห่งแรกในโลกที่ริเริ่มพัฒนาสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงใน The Sandbox โดยอยู่ภายใต้การหารือร่วมกับหน่วยงานกำกับทางการอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะพร้อมให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 4/2565
“ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสนใจศึกษาเรื่องการลงทุนเกี่ยวกับ Metaverse และมีแผนที่จะจัดกิจกรรม Metaverse Hackathon เร็ว ๆ นี้ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งเวทีสำหรับผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาปลดปล่อยพลังและความคิดสร้างสรรค์ โดยหวังว่ากิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานในการสร้างระบบนิเวศอันแข็งแกร่ง และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับ Metaverse อีกด้วย” นางมุขยา กล่าว