จับตา! กลุ่ม “พีระเดชาพันธ์” โยนบิ๊กล็อต TKN สัดส่วน 2% มูลค่า 224 ลบ.
จับตา! กลุ่ม "พีระเดชาพันธ์" โยนบิ๊กล็อต TKN สัดส่วน 2% มูลค่ากว่า 223.56 ลบ. ราคาเฉลี่ย 8.10 บ. ซึ่งเป็นราคาเท่ากับราคาบนกระดานซื้อขาย โดยราคาหุ้น TKN ปิดตลาดที่ 8.10 บาท ลบ 0.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 285.51 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 มี.ค.2565) มีรายการสรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่ (Big lot) ของหุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN จำนวน 3 รายการ ปริมาณ 27,600,000 หุ้น หรือคิดเป็น 2% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด มูลค่ารวม 223.56 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 8.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเท่ากับกระดานซื้อขาย โดยราคาหุ้น TKN ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 8.10 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 2.41% สูงสุดที่ 8.30 บาท ต่ำสุดที่ 7.95 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 285.51 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากจำนวนการทำรายการบิ๊กล็อตออกมา 27.60 ล้านหุ้น เมื่อไปพิจารณากับสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 8 มี.ค.2565 พบว่า มีโอกาสที่กลุ่มตระกูล พีระเดชาพันธ์ เข้าข่ายทำรายการขายหุ้นออกมา ดังนี้
| ลำดับ | ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ | จำนวนหุ้น (หุ้น) | % หุ้น |
|---|---|---|---|
| 1. | บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง | 360,000,000 | 26.09 |
| 2. | นาย อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ | 317,996,200 | 23.04 |
| 3. | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 87,962,613 | 6.37 |
| 4. | บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) | 68,143,700 | 4.94 |
| 5. | น.ส. อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ | 60,755,000 | 4.40 |
| 6. | นาย ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ | 60,100,500 | 4.36 |
| 7. | PAN ORION CORP. LIMITED | 48,300,000 | 3.50 |
| 8. | SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED | 15,760,747 | 1.14 |
| 9. | กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ | 5,684,900 | 0.41 |
| 10. | กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงาน บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เพื่อพนักงาน ทีโอที ซึ่งจดทะเบียนแล้ว | 4,656,700 | 0.34 |
อนึ่งช่วงก่อนหน้าเมื่อต้นปี 2564 ทางนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN เคยออกมายืนยันว่าตนไม่ได้ขายหุ้นให้กับบริษัทต่างชาติ แต่กับพบว่าช่วง 20-22 ม.ค. 2564 ทางตระกูลพีระเดชชาพันธ์ได้ขายหุ้นออกมารวมกว่า 11.17 ล้านหุ้น หรือ 0.85% มูลค่ารวม 138 ล้านบาท ดังนั้นสัดส่วนการขายหุ้นครั้งนี้ออกมา 27 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2% จึงอนุมานหรือสมมติฐานว่าอาจเป็นกลุ่มตระกูลพีระเดชาพันธ์ อาจขายออกมาอีก