MILL แจง “เมกะวัตต์” ยืดตั๋วสัญญา 735 ลบ. ชำระค่าหุ้น “สยามโซล่าร์” ไร้กระทบสภาพคล่อง

บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน)  หรือ MILL เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 ได้มีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท สยามโซล่าร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“สยามโซล่าร์”) จำนวน 9,999,998 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท) ราคาหุ้นละ 117 บาท รวมเป็นมูลค่า 1,170 ล้านบาท ให้กับ บริษัท เดอะ เมกะ วัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทร่วมของบริษัท โดยดำเนินธุรกิจลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยบริษัทจะเข้าลงทุนในเมกะวัตต์จำนวนไม่เกิน 700 ล้านบาท ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 28 ของทุนจดทะเบียน 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัท โดยเมกะวัตต์ได้ชำระเงินค่าหุ้นล่วงหน้าจำนวน 435 ล้านบาท คงเหลือค่าหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระจำนวน 735 ล้านบาท

ซึ่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 เมกะวัตต์ได้ชำระค่าหุ้นในส่วนที่เหลือ เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) จำนวน 735 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี (5.25%) นั้น บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เมกะวัตต์ ได้ส่งหนังสือขอขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่ บริษัท ซึ่งจากเดิมครบกำหนดชำระเงินภายในวันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นกำหนดใช้เงินใหม่ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เนื่องจากทางเมกะวัตต์ อยู่ในระหว่างดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม การขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว ไม่กระทบต่อแผนการใช้เงินและสภาพคล่องของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการกระแสเงินสดสำหรับใช้ในกิจกรรม ดำเนินงานต่างๆภายในบริษัทให้มีเพียงพออยู่เสมอ โดยไม่นับรวมจำนวนเงินที่จะได้รับชำระจากทางเมกะวัตต์ รวมถึงได้ พิจารณาถึงความเสี่ยงของการไม่ได้รับชำระค่าตั๋วสัญญาใช้เงินแล้ว และบริษัทเห็นว่า เมกะวัตต์เริ่มมีรายได้จากธุรกิจที่เข้าไปลงทุน รวมถึงมีแผนที่จะเพิ่มทุนให้ครบ 2,500 ล้านบาท ตามสัญญาร่วมทุน เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาชำระเงินต้นพร้อม ดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทได้มีการติดตามการเพิ่มทุนของเมกะวัตต์อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้พิจารณาขอหลักประกันการชำระหนี้เนื่องจากบริษัทเห็นว่าทางเมกะวัตต์มีความสามารถ ในการชำระหนี้ รวมถึงบริษัทมีความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจของเมะวัตต์เป็นอย่างดี นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารได้มีการ ติดตามการดำเนินงานของเมกะวัตต์อย่างใกล้ชิด และไม่ได้นิ่งนอนใจในการชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งในปัจจุบันเมกะวัตต์ได้มี การชำ ระหนี้บางส่วนพร้อมกับชำระดอกเบี้ยให้แก่บริษัท บริษัทจึงมีความเห็นว่าทางเมกะวัตต์จะสามารถชำระเงินส่วนที่เหลือ พร้อมดอกเบี้ยได้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน เมกะวัตต์ได้ชำระค่าหุ้นในส่วนที่เหลือเป็นเงินสดจำนวน 400.28 ล้านบาท และได้ชำระดอกเบี้ยให้แก่ บริษัทจำนวน 45.68 ล้านบาท คงเหลือเงินต้นที่ต้องชำระให้แก่บริษัทอีกจำนวน 334.72 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับชำระเงินส่วนที่เหลือดังกล่าวภายในกำหนดระยะเวลาชำระเงิน