จับตา! กมธ.แก้กฎหมายที่มา ส.ส. โหวต “บัตรเลือกตั้ง”

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เตรียมเคาะปมบัตรเลือกตั้ง ส.ส. จะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว หรือ สองใบ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้แก้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นหมายเลขเดียวกัน


นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เปิดเผยถึงกรณีกรรมาธิการฝั่งรัฐบาลไม่ต้องการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบหมายเลขเดียวกัน เพราะกังวลพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนแลนสไลด์ ว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์มีมติให้แก้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นหมายเลขเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ต้องการให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง ซึ่งการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยจะประสบความสำเร็จได้ พรรคการเมืองต้องมีความเข้มแข็ง และเพื่อช่วยให้ประชาชนได้มีความเข้าใจในการเลือก ระหว่างพรรคการเมืองกับตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่พรรคการเมืองเป็นผู้ส่ง ขณะเดียวกันก็จะทำให้มีสิทธิเลือกต่างกันได้

ทั้งนี้ที่สำคัญต้องทำให้มีบัตรเสียน้อยที่สุด เพราะปัจจุบันมีผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งมีประมาณ 50 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุและผู้อยู่ในชนบท ซึ่งอาจมีความสับสนและไม่เข้าใจ ดังนั้นถ้าออกแบบตามข้อกฎหมายก็ต้องทำให้การเลือกตั้งตรงกับเจตนาของประชาชนให้มากที่สุดโดยการออกแบบการเลือกตั้งต้องมีความชัดเจน

สำหรับการทำหน้าที่ประธานการประชุมวันนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนตัวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลตัวเลขสถิติบัตรเสียในการเลือกตั้ง แต่ละครั้งที่ผ่านมาที่มีกติกาที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันพิจารณาให้ครบถ้วน ส่วนความเห็นของแต่ละคนถือเป็นเอกสิทธิ์ที่ต้องเคารพ

ส่วนการที่ใช้บัตรเลือกตั้งหมายเลขเดียวกันจะทำให้ประชาชนสะดวกในการใช้สิทธิมากกว่าใช่หรือไม่ นายสาธิต เห็นว่า เป็นเช่นนั้น และพรรคประชาธิปัตย์เคยมีประสบการณ์ว่า ถ้าแต่ละเขตเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ส.กับหมายเลขพรรคคนละเบอร์กัน เวลาลงพื้นที่จะสร้างความสับสนให้ผู้เลือกและผู้รณรงค์หาเสียง และพบว่า มีบางกรณีที่ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงให้ตัวเอง แต่มาได้หาเสียงในพรรค ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาพรรคการเมืองอ่อนแอ

โดยนายสาธิต ยังย้ำว่า หากแก้กฎหมายเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเป็นประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่ง กติกาจะไม่ได้รับความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ ดังนั้น หากใครแพ้ ใครชนะ ก็จะหยิบยกสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา จนอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นปัญหา และเกิดเป็นความขัดแย้งในบ้านเมือง พรรคการเมืองใดจะได้รับการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นเพียงสมมติฐานทั้งสิ้น แต่สุดท้ายวันเลือกตั้งก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Back to top button