STA ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 7 พันลบ. เกลี้ยง “สถาบัน-รายใหญ่” จองล้น 3 เท่า
STA ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 7 พันลบ. เกลี้ยง สถาบัน-รายใหญ่แห่จองซื้ออย่างคึกคักมากกว่า 3 เท่าของจำนวนหุ้นกู้ที่จัดสรรไว้ เพื่อขยายกำลังยางแท่งตามแผน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ โดยวางเป้าปีนี้เพิ่มยอดขายยางธรรมชาติ 23% และเพิ่มส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในตลาดโลกเป็น 12%
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงิน 7,000 ล้านบาทแก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เมื่อวันที่ 28-30 มีนาคม 2565 โดยมีผู้แสดงความต้องการจองซื้ออย่างคึกคักมากกว่า 3 เท่าของจำนวนหุ้นกู้ที่จัดสรรไว้ หุ้นกู้ที่เสนอดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 ชุด ประกอบด้วย
ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.08% ต่อปี
ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.85% ต่อปี
ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.56% ต่อปี
ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.94% ต่อปี
ชุดที่ 5 อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.17% ต่อปี
โดยมีธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “A-” แนวโน้ม Positive จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มอุตสาหกรรมยางที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว
ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อลงทุนขยายกำลังการผลิตยางแท่งภายในโรงงาน 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานจังหวัดสระแก้ว กาฬสินธุ์ ตรังและเลย ซึ่งจะนำเทคโนโลยีระบบออโตเมชั่นเข้ามาปรับใช้ในทุกกระบวนการผลิต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อรองรับภาพรวมอุตสาหกรรมยางที่อยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัวส่งผลให้มีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น
โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นทำผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ได้วางเป้าหมายเพิ่มปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทรวม 1.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนมีปริมาณการขาย 1.3 ล้านตัน และจะเพิ่มส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในตลาดโลกเป็น 12% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 10%
“บริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ขยายกำลังยางแท่งตามแผน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ เพื่อรองรับเป้าหมายปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายวีรสิทธิ์ กล่าว