ORI อวดยอดขาย Q1 เฉียด 8 พันลบ. “ทริส” อัพเรทติ้งองค์กร BBB+ แนวโน้ม “คงที่”

ORI กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดไตรมาส 1/65 สูงกว่า 8 พันลบ. เดินหน้าเปิดเพิ่มอีก 8 โครงการช่วงไตรมาส 2/65 มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นลบ. หวังดันผลงานเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ "ทริส เรทติ้ง" ปรับอันดับเครดิตสู่ระดับ BBB+ แนวโน้ม Stable


นายพีระพงศ์​ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2565 (ม.ค.-มี.ค.2565) บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ยังคงเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 และช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 70% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรร ประมาณ 30%

ทั้งนี้ จากยอดขายดังกล่าวแบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ราว 50% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขาย (New Launch) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) รวมกันราว 50% โดยในไตรมาส 1/2565 นี้ บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท จึงทำให้สัดส่วนยอดขายจากโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้โครงการ New Launch จะเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือน แต่ ก็ยังทำยอดขายเฉลี่ยสะสม (Take Up Rate) อยู่ที่ประมาณ 50% ของยูนิตที่เปิดขาย

“วันนี้เรามองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของตลาดที่อยู่อาศัย เมื่อประกอบกับความเข้าใจ Customer Insight เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้เรายังได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า Gen Y ไปจนถึง Gen Z สังเกตได้จากยอดขายในภาพรวม โดยเฉพาะโครงการบริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยบูรพา เจาะตลาดนักศึกษา ที่สามารถ Sold Out ได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เช่นเดียวกับโครงการโซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์คน Work From Home และใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำยอดขายไปกว่า 70% ตั้งแต่เดือนเรก” นายพีระพงศ์​ กล่าว

นายพีระพงศ์​ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 2/2565 นั้น บริษัทยังคงมองเห็นปัจจัยบวกในประเทศจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติของผู้บริโภค ประชาชนจำนวนมากฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 3 เข็ม ส่งผลให้มีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น บริษัทจึงจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมอีก 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 13,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสดังกล่าว แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,500 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร 1 โครงการ บริทาเนีย อมตะพานทอง (Britania Amata-Panthong) มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่ถือเป็นไฮไลต์ของไตรมาส 2/2565 ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมออริจิ้น เพรสทีจ ทองหล่อ (Origin Prestige Thonglor) และ โครงการออริจิ้น คอร์ทยาร์ด ทองหล่อ (Origin Courtyard Thonglor) ซึ่งเป็นสองโครงการในโครงการเฟสแรกของเมกะโปรเจกต์แลนด์มาร์ค 15,000 ล้านบาท ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ (Origin Thonglor World) อีกกลุ่มที่ถือเป็นไฮไลต์ของไตรมาสดังกล่าว คือกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) เช่น แฮมป์ตัน เอ็กเซ็กคูทีฟ ศรีราชา (Hampton Executive Sriracha) ตอบรับกระแสการลงทุนในเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากหลายโครงการก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันยังมีคอนโดแบรนด์ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) และบริกซ์ตัน (Brixton) มาเจาะตลาดกลุ่ม Gen Y & Gen Z และสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ทริส เรทติ้ง ได้ปรับอันดับเครดิตของ ORI จากระดับ BBB แนวโน้ม Positive สู่ระดับ BBB+ แนวโน้ม Stable เนื่องจากบริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในธุรกิจคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีสินค้าครอบคลุมหลากหลายระดับราคาไปจนถึงราคา 50 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 เท่า และยังสามารถสร้างรายได้และยอดขายได้อย่างเติบโต แม้ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ในปี 2564 ที่ผ่านมา

Back to top button