PTTEP ปิดจ๊อบขายหุ้นกู้ 1.2 หมื่นลบ. ตอกย้ำความเชื่อมั่นนลท. นำเงินขยายธุรกิจ

PTTEP ปิดขายหุ้นกู้ 1.2 หมื่นลบ. รวมกรีนชู ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 3.05% ต่อปี ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน นำเงินชำระคืนหนี้-เป็นเงินทุนหมุนเวียน สร้างการเติบโตในอนาคต


นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.สผ. ศูนย์บริหารเงิน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้เสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีผู้ค้ำประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565

โดยมียอดจองซื้อในช่วงเวลาที่เปิดให้นักลงทุนแสดงความจำนงในการจองสูงถึง 2 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขาย บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe option) อีก 2,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ตอบแทนสม่ำเสมอท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน รวมมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายสำเร็จในวันที่ 5 เมษายน 2565 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ อยู่ที่ 2.09% , 2.69% และ 3.05% ต่อปี ตามลำดับ และการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ปตท.สผ. เป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ทั้งจำนวน

“อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ปตท.สผ. จะเว้นจากการเสนอขายหุ้นกู้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยมานานกว่า 3 ปี แต่ยังคงได้รับความเชื่อมั่นและการตอบรับเป็นอย่างดี  โดยเงินที่ได้การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เพื่อชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานในธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต” นายมนตรี กล่าว

สำหรับปตท.สผ. และบริษัทในกลุ่ม ยังคงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ก้าวสู่สังคมดิจิทัล จึงได้นำระบบสำรวจความต้องการซื้อตราสารหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bookbuilding) ที่พัฒนาโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) มาใช้ในกระบวนการการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญให้ผู้ออกหุ้นกู้พิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถแจ้งผลการจัดสรรไปยังผู้ลงทุนได้อัตโนมัติ นับเป็นอีกก้าวของการนำเทคโนโลยี  มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน และการประมวลผลข้อมูลสำหรับธุรกรรมในตลาดทุนไทย

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ “AAA” ซึ่งถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดของประเทศ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

Back to top button