RATCH มั่นใจรายได้ปีนี้โตเด่น อานิสงส์ซีโอดี 6 โครงการใหม่ 1.29 พันเมกฯ เต็มสูบ

RATCH ยันน้ำมันพุ่งไม่กระทบ มั่นใจรายได้ปีนี้โตเด่น อานิสงส์ซีโอดี 6 โครงการใหม่ 1,290.69 เมกะวัตต์ เต็มที่


นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลกระทบสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เนื่องจากกลุ่มโรงไฟฟ้ามีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ส่วนใหญ่ที่สามารถส่งผ่านค่าเชื้อเพลิงรวมอยู่ในค่าพลังงานไฟฟ้า (Energy Payment) ไปยังผู้รับซื้อไฟฟ้าได้ ขณะที่สัดส่วนลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ที่ไม่สามารถส่งผ่านค่าเชื้อเพลิงฯได้มีเพียง 1.6% หรือคิดเป็นราว 430 เมกะวัตต์เท่านั้น

ทั้งนี้บริษัทฯ จึงยังมั่นใจว่ารายได้ในปี 2565 จะเติบโตกว่าปี 2564 ที่ทำได้ 38,213.22 ล้านบาท เนื่องจากยังมีโครงการที่เตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปีนี้จำนวน 6 โครงการ กำลังการผลิต 1,290.69 เมกะวัตต์ ได้แก่

1.โรงไฟฟ้าสหโคเจนชลบุรี และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในกลุ่ม รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 124.95 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 51.67%) เริ่มรับรู้รายได้การขายไฟฟ้าและไอน้ำและการให้บริการตั้งแต่เดือน ม.ค.65

2.โรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน ในอินโดนีเซีย กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 930.78 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 45.52%) โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากส่วนแบ่งกำไรภายหลังธุรกรรมการซื้อหุ้นเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือน มิ.ย.65

3.โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 145.15 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 49%) เริ่มรับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่เดือนก.พ.65

4.โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีโค่วิน เวียดนาม กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 15.16 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 51%) คาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้

5.โรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่นส่นวขยาย กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 31.19 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 99.97%) คาดเริ่มรับรู้รายได้การขายไฟฟ้าและไอน้ำและการให้บริการตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป

6.โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช ระยอง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 45.08 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 49%) จะเริ่มรับรู้รายได้จากส่วนแบ่งกำไรในเดือนเม.ย.65

นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สายสีเหลือง โดยทั้งสองโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข M6 M81 คาดว่าจะ COD ได้ในปี 2567

อีกทั้งล่าสุด การจับมือกับบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เพื่อลงทุนในโรงพยาบาลพริ้นซ์ สกลนคร ซึ่ง RATCH ลงทุนโดยตรง 25% และลงทุนผ่าน PRINC อีก 10% ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในเดือน ก.พ.2566

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังคงงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้ในธุรกิจผลิตไฟฟ้า 93% โดยได้มีการลงนามสัญญาฯ ไปแล้ว (In Pipeline) มูลค่า 1,500 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นโครงการใหม่อีก 26,500 ล้านบาท และธุรกิจนอกภาคผลิตไฟฟ้า 7% โดย In Pipeline อยู่ที่ 600 ล้านบาท และโครงการใหม่ประมาณ 1,400 ล้านบาท

Back to top button