“ศบค.” เห็นชอบปรับแผนรับนทท.เข้าไทย – คงกฎดื่ม “แอลกอฮอล์” พื้นที่เสี่ยงไม่เกิน 5 ทุ่ม
ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบหลักการแนวทางปรับลดมาตรการเข้าประเทศ โดยแบ่งเป็น 2 ระยะให้นักท่องเที่ยวตรวจ ATK ด้วยตัวเองแทน RT-PCR โดยจะเคาะอีกหลังสงกรานต์ เพื่อรอดูสถานการณ์โควิดในประเทศ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการการปรับมาตรการตามที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ ศปก.กก และกระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอ สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ประเภท Test & Go, Sandbox และ Quarantine
โดยจะเป็นการปรับลดการใช้หลักฐานต่างๆ ในการเดินทางเข้าประเทศให้น้อยลง การผ่อนคลายวงเงินประกันสุขภาพ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาในรายละเอียด โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้ประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.มีการเตรียมแผนปรับมาตรการผู้เดินทาง เข้าประเทศหลังช่วงสงกรานต์ นักท่องเที่ยวประเภท Sand Box และ Quarantine โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือระยะที่ 1 เดือนเมษายน ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศให้มีการลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass ยกเว้นทางน้ำจะผ่านการขอ COA หรือ Thailand Pass พร้อม ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางทั้ง 3 กลุ่ม โดยปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางมาถึง และอยู่ระหว่างการพำนักในประเทศกรณี Test and Go และ Sandbox ให้ตรวจ ATK ด้วยตัวเองวันที่ 5 ส่วนกรณี Sansdbox ให้อยู่ในพื้นที่ 5 วัน และ Quarantine ให้กักตัว 5 วันพร้อมตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5
ขณะที่ผู้เดินทางติดเชื้อและเป็นผู้เสี่ยงสูง ในระยะที่ 1 ผู้ติดเชื้ออาการเล็กน้อยผู้ป่วยสีเขียว ให้รักษา HI หรือ Hospitel เป็นระยะเวลา 10 วัน ส่วนผู้เสี่ยงสูงให้กักตัว 7 วันและสังเกตอาการ 3 วันตรวจ ATK วันที่ 5 ถึงวันที่ 6 และวันที่ 10
ส่วนระยะที่ 2 เดือนพฤษภาคมจะมีการปรับหลักฐานที่ต้องใช้ในระบบ Thailand Pass และผ่อนคลายวงเงินประกันหรืออื่นๆ สำหรับการตรวจหาเชื้อ นักท่องเที่ยว ในกรณี Test & Go จะปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางมาถึง กรณี Quarantine จะมีการลดระยะเวลากับตัว ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยหรือผู้ป่วยสีเขียวจะมีการผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ และผู้เสี่ยงสูงจะยกเลิกการกักตัวหรือผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ
นพ.ทวีศิลป์ ระบุอีกว่า ในส่วนระยะที่ 2 เป็นเพียงการเห็นชอบในหลักการ และยังไม่ได้อนุมัติมาตรการข้างต้น โดยต้องรอดูตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์ เพื่อพิจารณาตามความเหมาะสมก่อนจะนำเข้าที่ประชุมต่อไป
สำหรับแนวทางปฏิบัติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ศบค. ยังให้คงมาตรการจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และสำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูงได้ไม่เกิน 23.00 น.