ลุ้น RS ผลงาน Q1 เทิร์นอะราวด์รับ “มีเดีย-อีคอมเมิร์ซ” หนุน โบรกชูเป้า 21 บ. อัพไซต์ 20%
ลุ้น RS โชว์ผลงาน Q1 "เทิร์นอะราวด์" รับธุรกิจมีเดียและอีคอมเมิร์ซหนุนหลังโควิด-19 คลี่คลาย ฟากโบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บ. ดันอัพไซต์พุ่ง 20%
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.65) โดยประเมิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ราคาหุ้น outperform SET เพิ่มขึ้น 7% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน RS เทรดอยู่ที่ 2565 PER อยู่ที่ 31.6 เท่า ส่วนทางฝ่ายวิจัยมองว่าราคาปัจจุบันน่าสนใจ ยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 4/2564 และจะฟื้นตัวในปี 2565 เป็นต้นไป
โดยทางฝ่ายวิจัยได้จัด group conference call กับผู้บริหาร RS เมื่อวานนี้ (7 เม.ย. 2565) ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อย มีประเด็นสำคัญดังนี้
1) RS ยังคงเป้ารายได้ปี 2565 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นธุรกิจ commerce อยู่ที่ 2.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ,Media & Entertainment อยู่ที่ 2.35 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าทางฝ่ายวิจัยคาดรายได้รวมอยู่ที่ 4.13 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
2) มีแผนการออกสินค้าผสม Hemp & CBD ปี 2565 อยู่ที่ 7-8 SKUs โดยเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป เช่น Camu C ผสมใบกัญชง (ราคา 25 บาท และวางจำหน่ายที่ 7-Eleven และ Modern Trade), Camu C ผสม CBD 2 SKUs (ราคา 39 บาท และวางจำหน่ายที่ 7-Eleven และ Modern Trade), Hemp pet care product 3-4 SKUs ในช่วง ไตรมาส 3/2565 คาดว่า GPM ของสินค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 45-50%
3) คาดว่า Popcoin เข้าเทรดใน Bitkub ในไตรมาส 2/2565 โดยปัจจุบันสามารถจำหน่ายเหรียญให้พาร์ทเนอร์ได้ประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญ หรือ 60% ของเป้ายอดขายเหรียญที่บริษัทตั้งไว้
4) มีการดีล ULife เริ่มรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ พ.ค. 2565 หากรายได้เป็นไปตามที่บริษัทฯคาดปี 2565 จะเป็น upside ต่อ net profit อยู่ที่ 63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12% ต่อประมาณการ (หลังหักดอกเบี้ยจ่าย) และปี 2566 จะเป็น upside ต่อ net profit อยู่ที่ 106 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% ต่อประมาณการ อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมดีลข้างต้นในประมาณการ
5) แนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส 1/2565 พลิกฟื้นจากมาเป็นกำไร จากไตรมาสก่อนหน้าจากขาดทุนสุทธิ 66 ล้านบาทในไตรมาส 4/2564 แต่ยังคงลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากกำไรสุทธิ 140 ล้านบาท ในไตรมาส1/2564 กำไรฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า หนุนโดย ธุรกิจ entertainment ที่ฟื้นตัว โดยรายได้ช่อง 8 ปรับตัวดีขึ้น จากการออกอากาศคอนเทนต์ใหม่ทั้งไตรมาส และรับรู้รายได้จาก licensing ไว้ที่ 50 ล้านบาท (โดยไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 10 ล้านบาท) ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของ licensing จะลง bottom line นอกจากนี้ รายได้ธุรกิจ commerce ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สำหรับผลประกอบการลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากผลกระทบของ COVID-19
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 โดยทางฝ่ายวิจัยมองว่ากำไรจะกลับมาเติบโตเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้าตั้งแต่ ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไปจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลาย
ดังนั้น ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 511 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 301% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนโดย 1) รายได้รวมขยายตัว และเพิ่มขึ้น16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากรายได้ Commerce ที่ฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ,รายได้ Entertainment เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และรับรู้รายได้จาก Popcoin อยู่ที่ 220 ล้านบาท และ 2) GPM เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก GPM media ที่ดีขึ้น และ 3) รับรู้ equity incomeจาก Chase เต็มปี และ SPG ตั้งแต่ ไตรมาส 2/2565 เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ทางฝ่ายวิจัยคงราคาเป้าหมายอยู่ที่ 21 บาท อิง 2565 PER อยู่ที่ 40 เท่า เมื่อเทียบเท่า 4-yr avg PER ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน ไตรมาส 4/2564 และจะฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2565