ITD จ่อเซ็นสัญญาใหม่ปี 65 กว่า 1.3 แสนลบ. ลุยเจรจาข้อตกลงสัมปทาน “ทวาย”
ITD จ่อเซ็นสัญญาใหม่ปี 65 กว่า 1.3 แสนลบ. สูงกว่าปี 64 ที่มีงานใหม่เข้ามามากขึ้น เผย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.65) เซ็นสัญญาแล้ว 2.92 หมื่นลบ. เดินหน้าเจรจาข้อตกลงสัมปทาน “ทวาย” ให้ดีที่สุด
นายวิรัช ก้องมณีรัตน์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเซ็นสัญญารับงานใหม่ในปี 2565 มูลค่างาน 131,123 ล้านบาท สูงกว่าปี 2564 ที่มีงานใหม่เข้ามา จำนวน 63,254 ล้านบาท โดยได้รับการเซ็นสัญญาในเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 เป็นจำนวน 29,220 ล้านบาท และส่วนที่เป็นงานที่ประมูลได้ในราคาต่ำที่สุด รวมมูลค่างาน 101,908 ล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 92,512 ล้านบาท โรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ เฟส 5 และเฟส 6 มูลค่า 5,981 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการใหม่ที่คาดว่าจะออกมา (Upcoming Projects) รวมมูลค่า 635,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีมักกะสัน (TOD) โดยงานใต้ดินส่วนตะวันออก มูลค่า 4,500 ล้านบาท, งานใต้ดินส่วนตะวันตก มูลค่า 6,500 ล้านบาท และ Super Tower มูลค่า 41,600 ล้านบาท, โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี มูลค่า 11,600 ล้านบาท, โครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ (สัญญา 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ) มูลค่า 12,000 ล้านบาท, โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย มูลค่า 59,000 ล้านบาท, ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ มูลค่า 58,000 ล้านบาท, ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 26,000 ล้านบาท, โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี (Civil Work) มูลค่า 5,000 ล้านบาท, โรงไฟฟ้าพระนครใต้ (700 MW Extension , Civil Work) มูลค่า 4,000 ล้านบาท, Vinythai Sakura Project มาบตาพุด (Civil Work) มูลค่า 800 ล้านบาท
รวมทั้งท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ส่วนที่ 2 งาน Onshore มูลค่า 6,000 ล้านบาท, ท่าเรือแหลมฉบังท่าเทียบเรือ D (Phase 2A ,2B และ 2C) มูลค่า 4,300 ล้านบาท, งาน Decommissioning Shipyard ของ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด มูลค่า 1,700 ล้านบาท , ก่อสร้างเท่าเทียบเรือหมายเลข 4 ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มูลค่า 900 ล้านบาท, โครงการผันน้ำจากแม่น้ำยวมไปสู่เขื่อนภูมิพล มูลค่า 70,000 ล้านบาท, งานวางท่อก๊าซธรรมชาติขนาด24 นิ้วระยะทาง 120 กม.จากโรงไฟฟ้าขนอมไปยังโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี มูลค่า 5,100 ล้านบาท , งานเคเบิ้ลใต้น้ำระบบ 33 เควี เกาะเต่าระยะทาง 45 กม. มูลค่า 1,800 ล้านบาท , โครงการเกาะสมุยวงจร4 มูลค่า 1,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก: ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) มูลค่า 93,000 ล้านบาท, Dhaka Mass Rapid Transit Project (Line-1) บังคลาเทศ มูลค่า 56,500 ล้านบาท, The Malolas-Clark Railway, ฟิลิปปินส์ มูลค่า 30,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในประเทศเมียนมาที่ ITD ถูกยกเลิกสัญญาสัมปทาน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 นั้น บริษัทได้ส่งหนังสือโต้แย้งไปเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 และขอเจรจากับรัฐบาล แต่เมียนมาเปลี่ยนรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2564 ทำให้การเจรจาชะลอไป และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 รัฐบาลเมียนมาได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (Dawei Special Economic Zone Management Committee :DSEZ MC) ชุดใหม่
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้ติดตามการเจรจาเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ได้มีการเจรจากัน และทางบริษัทมีการโต้แย้ง และยังหาทางเจรจากันต่อไป โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐไทยผ่านบริษัทเฉพาะกิจ ที่ร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลไทย หรือ SPV และเนื่องจากข้อตกลงตามสัญญากับ DSEZ MC ยังคงมีผลบังคับอยู่ มุมมองของบริษัทเกี่ยวกับผลกระทบเลวร้ายที่สุด ยังไม่ได้ระบุ ซึ่งระยะเริ่มต้นจะมีการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงให้ดีที่สุด
ส่วนโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่จังหวัดอุดรธานี อยู่ระหว่างการขอใบประทานบัตรที่ใกล้จะเสร็จสิ้น โดยล่าสุด กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เมษายน 2565 ได้ทำหนังสือขอความเห็นจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า เมื่อกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ ได้รับข้อมูลครบ ก็จะนำเสนอผลความเห็นของ 2 หน่วยงานต่อคณะรัฐมนตรี และจะให้ใบประทานบัตรได้ต่อไป