คัด 4 หุ้นเด่นโรงแรม รับอานิสงส์ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” คึก! ลุ้น “ททท.” ชงต่อเฟส 5

คัด 4 หุ้นเด่นโรงแรม รับอานิสงส์ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” คึก! ลุ้น “ททท.” ชงต่อเฟส 5 หลังจำนวน 2 ล้านสิทธิ์ แห่จองโรงแรมที่พักหมดเกลี้ยง ชู ERW-CENTEL  ได้ประโยชน์มากสุด


จากกรณีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จำนวนสิทธิของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” ทั้ง 2 ล้านสิทธิ (ห้อง) วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ได้ถูกใช้สิทธิเต็มจำนวนแล้ว และทาง “ททท.” เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาสนุนงบประมาณเพื่อต่อโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 และช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ดี

โดยหลังจากนี้ ททท.จะรวบรวมข้อมูลความสำเร็จของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก เสนอต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. พิจารณามาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นภาคท่องเที่ยวต่อไป

ส่วนจะดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ต่อหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ ททท.ระบุว่า ต้องขึ้นกับนายพิพัฒน์ด้วยว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และต้องเสนอให้รัฐบาลพิจารณาด้วยว่าหากดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ทางรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณหรือไม่ อย่างไรก็ตาม “ททท.” คาดว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 22,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำทำการรวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” และลุ้นรัฐบาลสนับสนุนโครงการเฟส 5 ต่อ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยครั้งนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากบทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ซึ่งระบุในบทวิเคราะห์ไว้ดังนี้ 

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์(18 เม.ย.2565) ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากการพิจารณาต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 หลังจากที่โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 มีการใช้สิทธิ์เต็มจำนวนแล้วที่ 2 ล้านสิทธิ์ เมื่อเทียบกับรอบที่ 1 ที่ 5 ล้านสิทธิ์, รอบ 2 ที่ 1 ล้านสิทธิ์ และรอบ 3 ที่ 2 ล้านสิทธิ์

โดยเชื่อว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จะยังคงให้ราคาเพดานห้องพักต่อห้องที่ 7,500 บาท (ส่วนลด 40% ไม่เกิน 3,000 บาท) เหมือนเดิม แต่จำนวนสิทธิ์ยังคงต้องรอการเสนอต่อ รมต. การท่องเที่ยวอีกที ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1-2 ล้านสิทธิ์ โดยหากมีการต่อเฟส 5 ได้จริงจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ดี

โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมภายในประเทศ ซึ่งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาก-น้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยจากมาก-น้อยคือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW  (90%), บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL (80%), บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT (15%) และ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR  (5%)

โดยคาดว่า ERW (ซื้อ/เป้า 3.90 บาท) และ CENTEL(ซื้อ/เป้า 45.00 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกจากโครงการนี้มากที่สุด และยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยวเป็น “มากกว่าตลาด”

Back to top button