SC โบรกเชียร์ “ซื้อ” รอรับปันผลยีลด์สูง 5% ครึ่งปีหลังโตเด่น! รุกผุดแนวราบ-โอนคอนโดใหม่
SC โบรกเชียร์ “ซื้อ” รอรับปันผลยีลด์สูง 5% ครึ่งปีหลังโตเด่น! รุกผุดแนวราบ 9 โครงการ-โอนคอนโดใหม่ 3 แห่ง ดันกำไรปีนี้ “นิวไฮ” ต่อเนื่อง คงราคาเหมาะสม 4.60 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(20 เม.ย. 2565) ว่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ประเมินกำไรปกติไตรมาส 1/2565 ที่ 382 ล้านบาท (ลดลง 30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,ลดลง 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เป็นไปตาม ทิศทางยอดโอนดาดอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (ลดลง 38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ลดลง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) แบ่งเป็นสัดส่วน แนวราบ 90% และคอนโด 10%
โดยการลดลงมีสาเหตุมาจาก 1) ฐานสูงใน ไตรมาส 4/2564 ตามปัจจัยฤดูกาลที่เร่งโอนในช่วงท้ายปี 2.) คอนโดพร้อมโอนเหลือไม่มาก โดย ณ สิ้น ปี 2564 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท เทียบกับ 6 พันล้านบาทในปี 2563 3) ปัญหาขาดแคลน แรงงานส่งผลให้เพิ่มสต๊อกแนวราบไม่ทันยอดขาย
อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้นการ ขายอสังหาฯคาดขยับขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ 30.9% (จากไตรมาส 4/2554 ที่ 29.0% และไตรมาส1/2564 ที่ 29 3%) เนื่องจากลดการทำโปรโมชั่นตอนโต บวกกับโครงการ แนวราบใหม่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น
โดยโมเมนตัมกำไรจะไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องรายไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 และทำจุดสูงสุดของปี ในไตรมาส 4/2565 โดยไตรมาส 2/2565 คาดฟื้นตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการรับรู้ Backlog ต่อเนื่อง และแผนการเปิดโครงการแนวราบที่เร่งขึ้นอย่างมีนัยจำนวน 9 โครงการ จากไตรมาส 1/2565 ที่เปิดเพียง 2 โครงการ
ขณะที่ให้น้ำหนักต่อผลประกอบการในครึ่งหลังปี 2565 ที่เร่งขึ้นเด่นเทียบครึ่งแรกปี 2565 และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรุกเปิดแนวราบจำนวนมากในไตรมาส 2/2565 ถึง ครึ่งหลังปี 2565 รวมมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท
ภายใต้ปริมาณสต๊อกแนวราบที่เพิ่มขึ้นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 หลังเห็นผลของการ ปรับระยะเวลาการสร้างสินค้ารอขายจาก 2 เดือนเป็น 6 เดือน และเพิ่มจำนวน ผู้รับเหมา ท่ามกลางสถานการณ์แรงงานดีขึ้นหลังเปิดประเทศ รวมถึงหนุนด้วยแผน โอนกรรมสิทธิ์คอนโดใหม่ 3 แห่งในไตรมาส 4/2565 อย่างโครงการ SCOPE L (มูลค่า 8.6 พันล้านบาท, Sold 41%) และ SCOPE Promsri (มูลค่า 1.1 พันล้านบาท , Sold 40%) และคอนโด JV The Crest Park Residence (มูลค่า 3.1 พันล้านบาท, Sold 24%) ทำให้คงประมาณการกำไรปกติปี 2565 New High ต่อ เติบโต 17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 2.4 พันล้านบาท บน Backlog ณ สิ้นปี 2564 Secured ยอดโอนแล้ว 41%
โดยคงราคาเหมาะสม 4.60 บาท (อิง PER 8.0x) คงคำแนะนำซื้อ จาก Valuation ที่ อยู่ระดับต่ำ ปัจจุบันซื้อขายบน PE2022 ที่ 6.9% มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 7.5x ไม่สอดคล้องกับคาดการณ์กำไรปีนี้ที่ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และต่ำกว่ากลุ่ม อสังหาฯที่ 9.3x ซึ่งกำไรโตในอัตราต่ำกว่า โต 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บวกกับระยะสั้นมีประเด็นบวก จากรับเงินปันผลงวดเต็มปี 2564 ที่ 0.20 บาท/หุ้น Yield สูง 5.1% ขึ้น XD วันที่ 29 เม.ย. และจ่ายปันผล 19 พ.ค. 2565
ขณะที่มีจุดแข็งจากความสำเร็จของการเปิด แนวราบระดับบนที่บริษัทถนัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่อุปสงค์และกำลังซื้อแข็งแกร่ง รวมถึง กลยุทธ์ที่ดีทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำ ให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดต่อเนื่อง สะท้อนยอด Presales YTD ทำได้แล้ว 6.2 พันล้านบาท คิดเป็น 28% ของเป้าทั้งปี บวกกับขยายพอร์ต Recurring income ทั้งปัจจุบันที่มีออฟฟิศให้เช่า และ Service Apartment ในสหรัฐ รวมถึงอยู่ระหว่างดำเนินการธุรกิจโรงแรมที่เปิดแห่งแรก ในไตรมาส 4/2565 หนุนการเติบโตในระยะกลาง-ยาว