“ขนส่งทางบก” ประกาศไม่ขึ้นราคาโดยสารหาก “ดีเซล” ลอยตัว

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยันยืนยังไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถขนส่งสาธารณะ หากรัฐเลิกอุดหนุนราคาน้ำมัน “ดีเซล” จนทำให้ราคาลอยตัว เพราะยังสามารถลดต้นทุนในส่วนอื่น เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชนได้


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ภาครัฐเตรียมเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซลในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยระบุว่า หากรัฐบาลลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล คงต้องมีการทบทวนเรื่องต้นทุนค่าโดยสารรถสาธารณะที่ใช้น้ำมันดีเซลอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะยังสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ แต่ยืนยันว่าหลังจากรัฐบาลลอยตัวราคาน้ำมัน ค่าขนส่งสาธารณะจะยังไม่ปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอาจจะใช้วิธีลดต้นทุนในส่วนอื่นแทน

สำหรับรถส่วนใหญ่ที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล มองว่าจะกระทบกับรถที่ให้บริการสายยาว อาทิ รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วม บขส. เป็นต้น แต่ บขส.ก็ให้ความร่วมมือลดต้นทุนด้านอื่นที่ทดแทนการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ อาทิ ลดต้นทุนด้านบุคลากร ด้านนการเดินรถ และสัญญาการเข้าร่วมเดินรถระหว่างรถร่วมเอกชนกับบริษัทขนส่งจำกัด

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีผู้ประกอบการเข้ามาหารือเรื่องผลกระทบ และค่าโดยสาร แต่หากผู้ประกอบการต้องการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ต้องขอไปที่คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง และต้องรอให้ต้นทุนราคาน้ำมันคงที่ก่อน หรือหารือมาตรการอื่นๆ มาช่วยชดเชย เนื่องจากปัจจัยของการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารนั้น ไม่ได้มาจากส่วนของต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างเดียว

ส่วนกรณีหากผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะปรับขึ้นค่าโดยสารเองนั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ย้ำว่า รถโดยสารประจำทาง ไม่สามารถปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเองได้ เพราะค่าโดยสารจะต้องปรับขึ้นตามข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง แต่รถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถนำเที่ยว สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารตามราคากลไกลตลาดได้ และเป็นไปตามความพึงพอใจของคนเช่า

ทั้งนี้ หากพบการกระทำผิดด้าวยการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสารที่กฎหมายไม่ได้อนุญาต ผู้ประกอบการจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ตั้งแต่โทษปรับสูงสุด จนถึงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถ

Back to top button