ปัจจัยกดดันตปท. ถ่วง SET เปิดเช้ารูด 13 จุด
SET เปิดเช้ารูด 13% ตาม Sentiment โลก หลังหลายปัจจัยกดดัน อาทิ กังวลเศรษฐกิจโลก, สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ, โควิด-19 ในจีน และเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10:05 น. อยู่ที่ 1,677.83 จุด ลดลง 12.76 จุด หรือ 0.75% สูงสุดที่ 1,678.66 จุด ต่ำสุดที่ 1,675.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.41 พันล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวลงตาม Sentiment โลกที่เป็นเชิงลบมากขึ้น เนื่องจากหลายปัจจัยกดดัน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก, สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อ, การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงในตลาดหุ้นบ้านเรายังน่าจะน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เนื่องจากมีปัจจัยบวกในประเทศหนุน คือ ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ออกมาดีกว่าคาดราว 5% และการยกเลิกมาตรการสกัดการเข้าประเทศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดใหญ่) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ให้แนวรับไว้ที่ 1,675-1,680 จุด และแนวต้าน 1,695-1,700 จุด
ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 เม.ย.2565) ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,670 – 1,680 จุด จากแรงกดดันคาดการณ์เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อระดับสูง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีและ VIX Index พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อภาวะการลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อหุ้นดักงบไตรมาส 1/2565 และหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้