SNNP ลั่นปี 65 ผลงานโต! ดีมานด์สินค้านอก-ในประเทศฟื้น อัพเป้ายอดขายทะลุ 5 พันลบ.
ผู้ถือหุ้น SNNP ไฟเขียวปันผลอีก 0.14 บาท/หุ้น 18 พ.ค.นี้ ฟากผู้บริหารส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานปี 65 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ยอดขายทะลุ 5 พันล้านบาท รับอานิสงส์ดีมานด์สินค้าในประเทศ-ต่างประเทศฟื้น
นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 22 เมษายน 2565 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท สำหรับครึ่งปีหลัง กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เมษายน 2565 และจ่ายเงินวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.10 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.24 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2564
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปี 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทลูกเริ่มออกดอกผล อีกทั้งการจับจ่ายในประเทศเริ่มฟื้นตัวขณะที่ยอดขายในประเทศเวียดนามเติบโตอย่างโดดเด่น กลายเป็นตลาดส่งออกหลัก และอินโดนีเซียเป็นตลาดของผู้บริโภคมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรกว่า 270 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรของประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV รวมกัน จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขยายตลาดของสินค้าของเรา ซึ่งในปัจจุบันมีสินค้ากลุ่มเยลลี่เข้าไปทำตลาดอยู่แล้วและได้รับการตอบรับอย่างดี
โดยบริษัทฯเตรียมจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย เพื่อผลิตสินค้าเพื่อขายในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้อย่างเร็วภายในปลายปีนี้ หรือไม่เกินช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ถือเป็นการเปิดประตูสู่ฐานผู้บริโภคแห่งใหม่ สร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับปัจจัยหนุนจากจากการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว รวมไปถึงตลาดส่งออกในเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี 2564 มีรายได้จากการขาย 4,277.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 437.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 93.8 ล้านบาท โดยที่อัดรากำไรปกติอยู่ที่ 344.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรปกติ 132.0 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์