WTI-BRENT ดิ่ง 4% กังวลศก. ซบเซาฉุดอุปสงค์น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่ง 4.28% สู่ระดับ 97.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ BRENT ดิ่ง 4.21% สู่ระดับ 102.16 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลเศรษฐกิจซบเซาฉุดอุปสงค์น้ำมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงกว่า 4% หลุดระดับ 98 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันนี้ 25 เม.ย. 2565 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก, การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และการที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดย ณ เวลา 17.44 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 4.37 ดอลลาร์ หรือ 4.28% สู่ระดับ 97.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลบ 4.49 ดอลลาร์ หรือ 4.21% สู่ระดับ 102.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
ขณะที่ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.6% ทั้งในปี 2565 และ 2566 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 4.4% ในปี 2565 และ 3.8% ในปี 2566
ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีน ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก หลังจากที่จีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ และบางส่วนของกรุงปักกิ่งเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น