มาตามนัด! “สหพันธ์ขนส่งฯ” ยื่น 5 ข้อ ขอนายกฯตรึงราคาดีเซล 1 ปี

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนสมาพันธ์และผู้ประกอบการขนส่ง ได้สวมเสื้อยืด “แพงทั้งแผ่นดิน” มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านทางนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยพิจารณาตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรออกไปอีก 1 ปี จากที่จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และสนับสนุนภาคขนส่งในการช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจ

โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นการแสดงสัญลักษณ์ครั้งที่ 5 แล้ว และขอเรียกร้องเป็นครั้งสุดท้าย หากยื่นข้อเสนอแล้วรัฐบาลไม่ดำเนินการ ก็จะปรับราคาค่าขนส่งขึ้นทันที และเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่จะขยับตัวสูงขึ้น

สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการขนส่งทั้ง 5 ข้อ ประกอบด้วย

1.ขอให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลราคาขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเป็นระยะเวลา 1 ปี

2.การปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม โดยตัดไบโอดีเซล B100 ออกจากสูตรน้ำมันดีเซล ซึ่งจะช่วยปรับลดราคาน้ำมันดีเซลได้ประมาณ 1.50 – 2 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี

3.การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เหลือ 20 สตางค์ เป็นเวลาระยะเวลา 1 ปี

4.การยกเลิกการใช้ฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นสิงคโปร์ เนื่องจากมีค่าขนส่งและค่าประกันภัยรวมอยู่ด้วย

5.การพิจารณาปรับเปลี่ยนการบริหารงานในตำแหน่ง รมว.พลังงาน เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

อย่างไรก็ตามสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น เห็นว่ากรณีที่มาตรการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้ และตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเชลเป็นขั้นบันได โดยอ้างอิงราคาน้ำมันดิบตลาดโลก และจะช่วยเหลือ 50% ของราคาน้ำมันดีเซลในส่วนที่เกิน 30 บาทนั้น เป็นแนวทางที่จะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง เพราะผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ผลิต ต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภค ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วยังมีแนวทางอื่น ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและทำให้รัฐบาลสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 25-30 บาทต่อลิตรได้