BGRIM ออกหุ้นกู้ 1.22 หมื่นลบ. ดอกเบี้ยสูงสุด 4.53% ขายสถาบัน-รายใหญ่

BGRIM ออกหุ้นกู้ 5 ชุด 1.22 หมื่นลบ. ดอกเบี้ยสูง 2.86-4.53% ขายสถาบัน-รายใหญ่ 6-10 พ.ค. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน-ขยายธุรกิจ


บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)  หรือ BGRIM ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 จำนวน 5 ชุด รวมมูลค่าไม่เกิน 12,200 ล้านบาท ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 เสนอขายไม่เกิน 4,200 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.91% ต่อปี , หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัท ชุดที่ 2 เสนอขายไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.86% ต่อปี , หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัท ชุดที่ 3 เสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.79% ต่อปี, หุ้นกู้ชุดที่ 4 เสนอขายไม่เกิน 2,150 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.15% ต่อปี , หุ้นกู้ชุดที่ 5 เสนอขายไม่เกิน 2,550 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.53% ต่อปี

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต”Stable” เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2565 BGRIM จะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 6  และ 9-10 พ.ค.65 โดยผู้ลงทุนสถาบันสามารถจองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารยูโอบี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และ บล.เกียรตินาคินภัทร ส่วนผู้ลงทุนรายใหญ่เสนอขายผ่าน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารยูโอบี และ บล.เกียรตินาคินภัทร

ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินลงทุนโครงการ 3,000-7,000 ล้านบาทภายในปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)  และเพื่อลงทุนในโครงการใหม่ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซึ่งได้แก่ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (โครงการ Ray Power ประเทศกัมพูชา และโครงการ reNIKOLA ประเทศมาเลเซีย) โครงการพลังงานลม (โครงการบ่อทอง วินด์ฟาร์ม ประเทศไทย และโครงการพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐเกาหลี 3,300 ล้านบาท) (สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 2 และหุ้นกู้ชุดที่ 3) ภายในปี 2566 อีกทั้งเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการอื่นใดที่เป็นประโยชน์สูงสุด 1,900 -5,900 ล้านบาทภายในปี 2566

Back to top button