“ดาวโจนส์” ปิดดิ่งกว่า 900 จุด ผิดหวังงบ “บจ.”-วิตกเฟดเร่งขึ้นดบ.

“ดาวโจนส์” ปิดดิ่ง 939.18 จุด มาที่ 32,977.21 จุด นักลงทุนผิดหวังผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน-วิตกเฟดเร่งขึ้นดดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงกว่า 900 จุดในวันศุกร์ (29 เม.ย.) โดยเป็นการร่วงลงรายวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง และกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,977.21 จุด ร่วงลง 939.18 จุด หรือ -2.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,131.93 จุด ร่วงลง 155.57 จุด หรือ -3.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,334.64 จุด ร่วงลง 536.89 จุด หรือ -4.17%

ทั้งนี้ดัชนี S&P 500 ร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และดัชนี Nasdaq ดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 และในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.5%, ดัชนี S&P500 ลดลง 3.3% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.9%

ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงราว 13% ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

ส่วนดัชนี S&P500 ร่วงลง 13% แล้วในปีนี้ ซึ่งเป็นการลดลง 4 เดือนรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2475

โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ร่วงลง นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่ดิ่งลง 5.9% และกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 4.9%

ทั้งนี้การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นตัวใหญ่ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตในเดือนนี้

ขณะที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า (3-4 พ.ค.) ซึ่งบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

หุ้นแอมะซอน.คอม ร่วงลง 14.05% ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งทำให้ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังแอมะซอนเปิดเผยผลประกอบการและแนวโน้มที่น่าผิดหวัง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

หุ้นแอปเปิล อิงค์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ร่วงลง 3.66% หลังการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวังได้บดบังการเปิดเผยผลกำไรและยอดขายรายไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์

หุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ร่วง 2.24% หลังปรับลดมูลค่าทางบัญชีลง 3.4 พันล้านดอลลาร์จากการถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย  ส่วนหุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลง 3.16% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.5% ในเดือนก.พ.

Back to top button