ททท.ชูกลยุทธ์ “ซอฟต์ เพาเวอร์” ตั้งเป้าดึง นทท.ปีนี้ 15 ล้านคน
ททท.เตรียมปรับกลยุทธ์หลังเปิดประเทศ เตรียมใช้ "ซอฟต์ เพาเวอร์" ใช้วัฒนธรรมความเป็นไทยดึงต่างชาติมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าจะมาผู้มาเยือนกว่า 15 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.8 ล้านล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ได้หารือกับภาคเอกชนเพื่อทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว กำหนดกรอบการทำงานและเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 โดยวางเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 5-15 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่เกี่ยวกับการกระตุ้นการท่องเที่ยว และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวประเทศไทยได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแบ่งได้ 3 กรณี
กรณีที่ 1 หากไม่สามารถเปิดท่องเที่ยวชายแดนได้และตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ เพราะนโยบายของรัฐบาลจีนยังไม่เปิดเมืองจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยได้ประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งต้องมีตลาดอินเดีย รัสเซีย เข้ามาเที่ยวได้ รวมกับตลาดยุโรป และสหรัฐ
กรณีที่ 2 หลังกลางปี 2565 จีนเปิดประเทศส่งออกนักท่องเที่ยวไปต่างชาติได้ คาดว่าจะมีชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทย 2-3 ล้านคน รวมมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 7-8 ล้านคน
และกรณีที่ 3 สามารถเปิดท่องเที่ยวทางบกได้ในไตรมาส 1/2565 เชื่อมต่อพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเฉพาะ 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ลาว เมียนมา กับพูชา เข้ามาไทย 7-8 ล้านคน ทำให้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมประมาณ 15 ล้านคน สามารถสร้างรายได้รวม 2 ตลาดเข้าประเทศไทย
สำหรับแนวทางส่งเสริมการตลาดปี 2565 ททท.เตรียมพลิกโฉมการท่องเที่ยวด้วยการสร้างคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวมิติใหม่ผ่านวัฒนธรรมความเป็นไทย หรือซอฟต์เพาเวอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นต่างจากคู่แข่ง เช่น วัฒนธรรมการกิน อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง ภาพยนตร์ แฟชั่น มวยไทย การละเล่นในเทศกาล สำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามกลุ่มที่เป็นเป้าหมายเบื้องต้นคงเป็นตลาดระยะใกล้ เพราะเดินทางง่าย โดยททท. จะต้องเพิ่มจำนวนวันพักให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายและอยู่ในไทยให้นานขึ้น
ด้านนายธเนศร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ททท.จะบุก 5 ตลาดเป้าหมายตลาดระยะใกล้ คือ อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยภาคเอกชน เสนอให้เพิ่มน้ำหนักการทำตลาดใน บังกลาเทศและปากีสถาน
ขณะที่นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา ททท. กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดที่น่าสนใจมีตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย อิสลาเอล แคนาดา ละตินอเมริกา และสหรัฐตอนกลาง ซึ่ง ททท.จะไปร่วมจัดงานส่งเสริมการตลาดสำคัญ อาทิ WTM London 2022 วันที่ 7-9 พ.ย.2565 ILTM North America ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ย.2565 และ Proud Experiences 2022 Trade Show ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.2565