SABUY เคาะเพิ่มทุน “พีพี” อีก 3 ราย วงเงิน 168 ลบ. ลุยลงทุน “ไอซอฟเทล-SKM-SKV”
SABUY เคาะเพิ่มทุน "พีพี" อีก 3 ราย วงเงิน 168 ลบ. เพื่อเข้าลงทุน "ไอซอฟเทล-SKM-SKV" หวังขยายธุรกิจสู่ซอฟต์แวร์ และการจัดการทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2565 ซึ่งมีการประชุมเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ครั้งที่ 2 จำนวน 6,001,712 หุ้น ในราคาเสนอขาย 28 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 168,047,936 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 3 ราย ได้แก่ (1) นายวิศธิสิทธิ์ ยอดปัญญา จำนวน 937,545 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.07%, (2) นายเอกพงศ์ โชติกมาศ จำนวน 776,739 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.06% และ (3) บริษัท ไอ เอส เอฟ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 4,287,428 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.31%
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินเข้าไปลงทุนในบริษัท เอสเควี ยูนิตี้ ซัพพลาย จำกัด หรือ SKV, บริษัท เอส.เค. เมเนจเม้นท์ แอนด์ ซัพพลาย จำกัด หรือ SKM และบริษัท ไอซอฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ iSoftel เพื่อไม่ได้กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ กอปรกับการเพิ่มทุนดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทฯ ไม่ต้องเพิ่มภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน และช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัทฯ ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการเข้าลงทุนใน iSoftel ด้วยการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 25,010 หุ้น หรือคิดเป็น 25.01% ใน iSoftel จาก บริษัท ไอ เอส เอฟ โฮลดิ้ง จำกัด (ISF Holding) โดย iSoftel ประกอบธุรกิจเป็นผู้พัฒนาโปรแกรมเกี่ยวกับการสื่อสารทางโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (Computer Telephony Integration หรือ CTI) ในประเทศไทย โดยมีเครื่องมือที่ได้พัฒนาเองชื่อ iTool สำหรับการให้บริการ Computer Telephony Solution อาทิเช่น Inter Active Voice Response (IVR) และการให้บริการคอนแทคเซ็นเตอร์ เป็นต้น และการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน Customer Relationship และเป็นผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100 ของ บริษัท ซอฟต์เทล คอมมูนิเคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด (Softel) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการด้าน Outsourced Contact Center โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 120,048,000 บาท ให้แก่ ISF Holding
รวมถึงได้มีการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ SKM จำนวนไม่เกิน 24,000 หุ้น หรือคิดเป็น 80% จากนายเอกพงศ์ โชติกมาศ และเข้าลงทุนใน SKV จำนวนไม่เกิน 8,000 หุ้น หรือคิดเป็น 80% จากนายวิศธิสิทธิ์ ยอดปัญญา ทั้งนี้ SKM และ SKV ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนรวมจำนวนไม่เกิน 48,000,000 บาท ให้แก่นายเอกพงศ์ โชติกมาศ
อนึ่งก่อนหน้าในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 67,639,640 หุ้น ในราคาเสนอขาย 28 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 1,893,909,920 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ไปแล้วจำนวน 6 ราย ได้แก่ (1) นายวีรวัฒน์ แจ้งอยู่ จำนวน 4,875,000 หุ้น คิดเป็น 0.36%, (2) นางสาวสวิตา แจ้งอยู่ จำนวน 3,064,285 หุ้น คิดเป็น 0.22% (3) นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ จำนวน 3,064,285 หุ้น หรือคิดเป็น 0.22%, (4) น.ส.เธียรวรรณี แจ้งอยู่ จำนวน 3,064,285 หุ้น หรือคิดเป็น 0.22%, (5) บริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด จำนวน 5,000,357 หุ้น หรือคิดเป็น 0.37% และ (6) บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 จำนวน 48,571,428 หุ้น คิดเป็น 3.57% รวมทั้งหมด 67,639,640 หุ้น หรือคิดเป็น 4.97% ของทุนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน