SNNP แย้ม Q2 โตต่อ ลุยโรงงานเวียดนาม สร้าง NEW S-CURVE ตั้งเป้าปีนี้รายได้ 5 พันลบ.
SNNP ส่งซิก Q2 โตต่อเนื่อง ปักหมุดตั้งรง.เวียดนาม สร้าง NEW S-CURVE บุกตลาดตปท. คาดเฟส 1 เสร็จปลาย Q3 ตั้งเป้าปีนี้รายได้ 5 พันลบ.
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตจะมีผลต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 หรือช่วงที่เหลือของปีนี้หรือไม่
แบ่งเป็น 2 มิติ คือ 1.เครื่องดื่ม รับปัจจัยบวกช่วงฤดูกาลที่จะสนับสนุนไปไตรมาส 2 ส่วนมิติที่ 2.ขนมขบเคี้ยว บริษัทฯ ได้มีการจัดวางแผนด้านการตลาดขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่ต้องสร้างการเติบโตอยู่ตลอดเวลา
สำหรับช่วงที่ผ่านมาไตรมาสใดเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด
บริษัทฯ ก่อตั้งมา 30 ปี ไตรมาสที่ยอดขายสูงที่สุดคือไตรมาส 4 แต่ถ้าเจาะลึกลงไปไตรมาส 1 ปีนี้เราเติบโตกว่าไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ถือเป็นการลบประวัติศาสตร์เก่าสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นมา และคาดแนวโน้มไตรมาส 2 จะดีต่อเนื่อง
รายได้ไตรมาส 1/2565 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 หดตัวลง ตรงนี้เกิดจากสาเหตุอะไรและจะดีขึ้นหรือไม่
จริงๆแล้วหากนับเฉพาะตลาดในประเทศจากงบการเงิน ถ้าจากไตรมาสก่อนเราโตทั้งยอดขายและผลประกอบการ แต่ตลาดต่างประเทศโตน้อยกว่าไตรมาส 4/2564 เหตุผลเพราะไตรมาส 1 มีปัญหาเรื่องการส่งออก ซึ่งตลาดสำคัญคือเวียดนาม แล้วธุรกิจจีนล็อกดาวน์ส่งผลให้ค่าตู้คอนเทนเนอร์สูงส่งไปก็ไม่คุ้มจึงตัดสินใจส่งเท่าที่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯ จึงจะมาเร่งทำผลงานในไตรมาส 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลขของตลาดต่างประเทศจะโตอย่างชัดเจน
การตั้งโรงงานที่เวียดนามตอบโจทย์ปัญหาเรื่องล็อกดาวน์ใช่หรือไม่
สำหรับการตั้งโรงงานที่เวียดนามจริงๆไม่ใช่เป็นการตอบโจทย์เรื่องการล็อกดาวน์ แต่การตั้งโรงงานที่เวียดนามถือเป็นการปักหมุดอีกเล่มหนึ่งในการทำธุรกิจเรียกได้ว่าเป็นการสร้าง NEW S-CURVE ของธุรกิจที่จะดับเบิ้ลธุรกิจในอนาคต ด้วยจำนวนประชากรในเวียดนามมีมากกว่าไทย โดยโรงงานจะเสร็จในปลายไตรมาส 3 เราจะสามารถที่กระจายสินค้า เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย เพราะฉะนั้นขุมทรัพย์อยู่ตรงนั้นอีกเยอะ โดยการตั้งโรงงานนั้นไม่ได้มีปัญหาเพราะโควิดแต่ที่ไปตั้งนั้นเพราเห็นถึงโอกาส สำหรับเฟส 1 จะเสร็จปลายไตรมาส 3 ส่วนเฟส 2 จะเป็นต้นปีหน้า และเฟส 3 จะเป็นปลายปีหน้า โดยบริษัทฯ จะทยอยสร้างเป็นเฟสๆไป
สัดส่วนรายได้และกำไรจะเปลี่ยนไปหรือไม่
โดยปัจจุบันยอดขายภายในประเทศอยู่ที่ 80% ส่วนต่างประเทศ 20% ซึ่งถ้าตลาดเมืองไทยยังเติบโตคาดปีนี้บริษัทจะมีรายได้ 5 พันล้านบาท สำหรับในอนาคตตลาดต่างประเทศถ้าโตมากกว่าที่คิดกำไรจะดีขึ้นแบบชัดเจนมาก ทั้งนี้คิดว่าในระยะยาว 4-5 ปีข้างหน้า ยอดขายในต่างประเทศจะมากกว่า