SUPER ย้ำรายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นลบ. ลุยเวียดนามเต็มสูบ-เล็งชิงเค้ก “วินด์ฟาร์ม” 20,000 MW
SUPER ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นลบ. ลุยเวียดนามเต็มสูบ-เล็งชิงเค้ก “วินด์ฟาร์ม” 20,000 MW พร้อมปักธงปีนี้ COD เข้าพอร์ตเพิ่มอีก 270 MW ดันกำลังการผลิตแตะ 1,900–2,000 เมกะวัตต์ ฟาก “จอมทรัพย์” เก็บหุ้นเพิ่ม 6 ล้านหุ้น ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ราคา SUPER อ่อนตัวช่วงนี้มีความเห็นต่อปรากฏนี้อย่างไรบ้าง?
สำหรับราคาหุ้น SUPER ที่อ่อนตัวในช่วงนี้ไม่ทราบมาจากสาเหตุอะไร เพราะในแง่ธุรกิจบริษัทเดินหน้าเต็มที่ โดยในปีนี้วางเป้ารายได้อยู่ที่ 11,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีประมาณ 9,000 ล้านบาท และมั่นใจปีนี้จะเป็นไปตามเป้า
เก็บหุ้นเพิ่ม 6 ล้านหุ้น ตอกย้ำพื้นฐานธุรกิจแกร่ง
สำหรับราคาหุ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมาอ่อนตัวผิดปกติ และไม่เป็นไปตามพื้นฐาน ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นโอกาสทีดีในการเข้าเก็บหุ้น โดยล่าสุดเข้าเก็บหุ้นเพิ่มอีกราว 6 ล้านหุ้น เนื่องจาก SUPER เป็นบริษัทที่ทำสัมปทานขายไฟฟ้าเป็นหลักให้รัฐบาลไทยและเวียดนาม ในแง่กำลังการผลิตไฟฟ้าเดินหน้าเต็มที่ และรัฐบาลรับซื้อ 100% จึงไม่มีอะไรเข้ามาผลกระทบต่อธุรกิจและธุรกิจยังเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง
ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.1 หมื่นลบ. เพิ่มกำลังการผลิตเข้าพอร์ตอีก 270 เมกะวัตต์
สำหรับปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 1.1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) อีกประมาณ 100 เมกะวัตต์(MW) จากการเติบโตของบริษัทไม่นับรวมที่จะเข้าไปควบรวมหรือซื้อธุรกิจอื่นเข้ามา ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม(วินด์ฟาร์ม) ปีนี้คาดจะเพิ่มในพอร์ตอีกประมาณ 177 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังผลิตโรงไฟฟ้าขยะอีก 10 เมกะวัตต์ โดยรวมปีนี้จะเพิ่มกำลังการผลิตเข้าในพอร์ตประมาณ 270 เมกะวัตต์ (MW) โดยภายในปีนี้ตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900–2,000 เมกะวัตต์
ลุยตลาดเวียดนามเต็มสูบ-เล็งชิงเค้ก “วินฟาร์ม” 20,000 เมกะวัตต์
ส่วนการเพิ่มกำลังผลิตในต่างประเทศยังเน้นไปที่เวียดนาม เนื่องจากประเทศเวียดนามจะเปิดประมูลพลังงานลมอีก 20,000 เมกะวัตต์ (MW) ในอีก 5 ปีข้างหน้า อีกทั้งบริษัทมีฐานธุรกิจ และมีพนักงานอยู่แล้ว 200 คน และเป็นตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ดังนั้นยังคงมุ่งเน้นตรงส่วนนี้
สำหรับโครงการพลังงานลมดังกล่าวเป็นไปตามแผนแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนาม ฉบับที่ 8 (Power Development Plan VIII – PDP8 ที่จะออกมาในเดือนนี้ โดยพลังงานลม 20,000 เมกะวัตต์ จะติดตั้งและขายไฟในประเทศเวียดนาม และคาดว่าในไตรมาส 4/2565 และในปีหน้าจะเห็นภาพชัดเจนว่าจะได้กำลังผลิตในโครงการดังกล่าวเท่าไหร่
ทั้งนี้เงินลงทุนการลงทุนดังกล่าวจะจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ (พาร์ทเนอร์) AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในเครือของ AC ENERGY CORPORATION หลังจากที่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายหุ้นไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ มีมูลค่ารายการประมาณ 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5.5 พันล้านบาท ซึ่ง SUPER และ ACEV จะถือหุ้นร่วมกันในบริษัท ซึ่งดำเนินกิจการโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม สัดส่วน 51% และ 49% ตามลำดับ
โดยคาดว่าในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ถึงต้นเดือน ก.ค. 2565 บริษัทน่าจะมีการปิดดีลการซื้อขายและควบรวมกิจการ (M&A) และมีเงินทุนดังกล่าวเข้ามาขยายกิจการ ซึ่งตรงกับแผน PDP8 ของเวียดนามที่ออกมาพอดี
สำหรับ AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. เป็นบริษัทย่อยของ AC ENERGY CORPORATION (ACEN) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในฟิลิปปินส์ และประกอบกิจการพลังงานภายใต้ Ayala Group ทั้งนี้ ACEN มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมมากกว่า 3,000 เมกะวัตต์ ในประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย และออสเตรเลีย โดยมีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ประมาณ 80% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
ทั้งนี้ ACEN มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568
โรงไฟฟ้าขยะชุมชน “นครศรีธรรมราช–นนทบุรี” 40 เมกะวัตต์ ทำประชาพิจารณ์เรียบร้อย
สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ล่าสุดเห็นชอบรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 34 โครงการ จำนวน 282.98 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ 2568-2569 โดยบริษัทมี “โครงการโรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาด 20 เมกะวัตต์ และนนทบุรี 20 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมด 40 เมกะวัตต์ โดยทำประชาพิจารณ์ครบถ้วนทั้ง 2 โครงการ และเซ็นสัญญารับกำจัดขยะ 20 ปี กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาลไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้รอเซ็นสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( EGAT) และจะะเริ่มก่อสร้างได้โดยคาดใช้เวลาประมาณ 18-20 เดือน และเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)
“สำหรับ SUPER ธุรกิจเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง และไม่มีปัญหาอะไรน่ากังวล อีกทั้งแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง สถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรง และรายได้จะเป็นไปตามเป้า โดยวันที่ 12 พ.ค.นี้ จะจัดประชุมรับรองงบไตรมาส 1/2565 คาดตัวเลขรายได้ที่ออกมาก็จะเห็นแนวโน้มทั้งปีชัดเจนมากขึ้น” นายจอมทรัพย์กล่าว