TOP กำไรไตรมาส 1 โตเท่าตัว! รับรายได้ขายเพิ่ม – FX พลิกบวก 311 ลบ.
TOP รายงานกำไรไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 7.18 บาท โต 113% จากปีก่อนกำไร 3.36 พันลบ. รับรู้รายได้ขายเพิ่มตามราคาน้ำมันดิบ รวมถึงพลิกมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มไทยออยล์มีปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มเพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวและการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 41,057 ล้านบาท ตามราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินน้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าดและน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวดีขึ้นมาก หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและการเดินทาง ระหว่างประเทศ อีกทั้งธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากอุปสงค์ของสาร LAB ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานกับน้ำมันเตาปรับตัวลดลงจากอุปทานในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น จากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาค ประกอบกับส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนและเบนซีนกับน้ำมันเบนซิน 95 ปรับลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 9,816 ล้านบาทจาก Q1/64 แต่มีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 2,609 ล้านบาท เทียบกับการกลับรายการมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 109 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 เมื่อรวมกับผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิที่เพิ่มขึ้น 5,608 ล้านบาท ส่งผลให้มี EBITDA เพิ่มขึ้น 4,762 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 1/65 กลุ่มไทยออยล์มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงิน 1,625 ล้านบาท เทียบกับกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงิน 217 ล้านบาทในไตรมาส 1/64 ขณะที่ในไตรมาส 1/65 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 311 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 2,604 ล้านบาทในไตรมาส 1/64 เมื่อหักค่าเสื่อมราคาต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3,823 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน