พปชร. ฟัน “พิเชษฐ” หมดสิทธิรับประโยชน์จากพรรค 6 เดือน หลังจับมือฝ่ายค้านปม EASTW
พรรคพลังประชารัฐ มีมติลงโทษ “พิเชษฐ สถิรชวาล” หมดสิทธิรับประโยชน์จากพรรค 6 เดือน หลังมีพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์ จับมือฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐ ปม EASTW ชวดโครงการท่อส่งน้ำพื้นที่ภาคตะวันออก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคฯ เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาบทลงโทษของนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังไปจัดตั้งกลุ่มการเมืองใช้ชื่อ “กลุ่ม 16” เพื่อเคลื่อนไหวการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคพลังประชารัฐ และตามคำสั่งหัวหน้าพรรคไม่ให้สมาชิกพรรคมีการตั้งกลุ่มการเมืองขึ้น เพราะจะเป็นการทำลายเอกภาพของพรรค
ขณะเดียวกันได้ใช้สถานะการเป็นสมาชิกพรรค ไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ในวันที่ 28 เมษายน 2565 และวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อเตรียมเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยื่นไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งการกระทำของพรรคเพื่อไทยเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้เมื่อปรากฏว่านายพิเชษฐ ไปร่วมประชุมหารือวางแผนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี กับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับโครงการประกวดราคาท่อส่งน้ำพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW การกระทำของนายพิเชษฐจึงเป็นการกระทำที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และเป็นการตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรค ด้วยเหตุนี้นายพิเชษฐจึงฝ่าฝืนข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐหลายข้อ
นอกจากนี้นายพิเชษฐได้โทรศัพท์คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรค ดังนั้นการกระทำดังกล่าวข้างตันของนายพิเชษฐ จึงเป็นการกระทำตามอำเภอใจ โดยไม่มีสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อเสถียรภาพของพรรค ไม่มีจิตสำนึกในอุดมคติของพรรค และไม่เป็นไปตามหลักการอยู่ร่วมกันของสมาชิกพรรคภายใต้ระเบียบแบบแผนของพรรค ถือเป็นการตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรค ทำให้สังคมและบุคคลภายนอกเข้าใจผิดและตำหนิติเตียนพรรคพลังประชารัฐ ทำให้พรรคเสียหายต่อชื่อเสียง
โดยการกระทำดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค ในฐานะสมาชิกพรรค ซึ่งต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคตามข้อบังคับ ข้อที่ 56 (1) (3) และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับ ข้อที่ 64 ข้อที่ 69 ข้อที่ 72 ข้อที่ 76
ดังนั้นเมื่อคณะกรรมการฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายพิเชษฐ ในฐานะสมาชิกพรรคได้กระทำที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค เพื่อเป็นการรักษาหลักการและแนวทางปฏิบัติที่เคยดำเนินการในกรณีก่อนหน้านี้ จึงมีมติเห็นควรให้ดำเนินการงดเว้นสิทธิของนายพิเชษฐ ในฐานะสมาชิกพรรคที่พึงได้จากพรรคเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 6 เดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม ถึง 12 พฤศจิกายน 2565 ได้แก่ 1.สิทธิในการได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการหรือตำแหน่งอื่นในสัดส่วนของพรรค 2.สิทธิในการร่วมกิจกรรม ร่วมประชุมหรือใช้ห้องประชุมพรรค และสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ เช่น ในระบบแอพลิเคชั่นไลน์ของพรรค และ 3.สิทธิในการใช้ชื่อ ตรา เครื่องหมาย สัญลักษณ์ ของพรรค ในการประชาสัมพันธ์ต่างๆ หลังจากนี้ คณะกรรมการจะนำผลการประชุมครั้งนี้เสนอต่อผู้บริหารพรรคต่อไป
นายไพบูลย์ ย้ำว่า การกระทำของนายพิเชษฐ ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องมีมติขับออกจากพรรค แต่หากมีการกระทำผิดซ้ำอีก สามารถพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของการขยายเวลาตัดสิทธิได้อีก แต่ไม่มีการขับพ้นจากพรรค