THG แย้ม Q2 คนไข้ปกติ-ต่างชาติรีเทิร์น! วางไทม์ไลน์ “ธนบุรี รังสิต” เปิดบริการต้นปี 68

นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

แนวโน้มผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2565

อย่างที่เห็นว่ารายได้รวมไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 3,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาส 1/2564 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,566 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347% ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดว่าคนไข้ที่เข้ามารักษาอาการโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ส่วนคนไข้อาการตามปกติจะกลับมารักษาในโรงพยาบาลเหมือนเดิม หลังจากคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อัตราการเข้ารักษาของคนไข้โควิด-19 ในไตรมาส 2/2565 เป็นอย่างไร

มองว่าจะตัวเลขจะทยอยลดลง เนื่องจากคนปกติทั่วไปที่แสดงอาการน้อยก็จะพักรักษาตัวที่บ้าน ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่มีอาการรุนแรงถึงจะเข้ามารักษาภายในโรงพยาบาล ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อการบริหารจัดการเตียงให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลจริงๆ

ฐานผู้ป่วยปกติเริ่มกลับมา

กลับเข้าเหมือนเดิม แต่ว่าประเด็นท้าทายต่อๆ ไป คือว่า กำลังซื้อที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ในฐานะผู้ประกอบการจะช่วยคนไข้ ช่วยสังคมอย่างไร ซึ่งเราก็มีแผนจะช่วยเหลือสังคมให้คนไข้เข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น

ไตรมาส 2/2565 รายได้ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 เป็นอย่างไร

ต้องยอมรับว่าตัวเลขรายได้อาจลดลงจากไตรมาส 1/2565 แต่รายได้คนไข้ปกติจะกลับมา และยังมีคนไข้ต่างชาติทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น จากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะคนไข้จากเมียนมาร์ อาหรับ ที่ส่งสัญญาณกลับเข้ามาแล้ว

แนวทางรับมือเศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อหดหาย

มองว่ากลุ่มเฮลท์แคร์ต้องปรับตัวใหม่ทั้งในเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงดิจิทัลแพตฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาคนไข้ การเข้าถึงคนไข้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้ และเชื่อว่าในช่วง 5-6 เดือนข้างหน้าจะได้เห็นความชัดเจนผลิตภัณฑ์ดิจิทัลแพตฟอร์มของ THG ออกมาเพิ่มขึ้น

ภาพการ Synergy กับโรงพยาบาลต่างๆ

โรงพยาบาลธนบุรี รังสิต ที่เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท, บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM, บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ล่าสุดผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการออกแบบและจัดการเรื่อง EIA ประมาณ 7-8 เดือน และคาดว่าช่วงต้นปี 2566 จะเริ่มก่อสร้างได้ ดังนั้นจึงคาดว่าไม่เกินต้นปี 2568 จะสามารถเปิดให้บริการได้