SUPER รับรู้ “โซลาร์เวียดนาม-ธุรกิจขายน้ำ” หนุนกำไรไตรมาส 1 แตะ 532 ลบ.
SUPER รายงานกำไรไตรมาส 1/65 ที่ระดับ 532.29 ลบ. ลดลง 38% จากปีก่อนมีกำไร 860.25 ลบ. เหตุต้นทุนทางการเงิน-ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่ม
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนทางการเงิน 589.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.18% ซึ่งสอดคล้องกับเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น โดยเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นเกิดจากเงินกู้ยืมสกุลต่างประเทศ (USD) และมีการเบิกเงินกู้จากสถาบันการเงินในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อนำมาชำระให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม รวมถึงมีต้นทุนทางการเงินจากหุ้นกู้ ที่มีการออกและเสนอขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2564
พร้อมกันนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 178.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58.50% เกิดจากค่าใช้จ่ายของโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามที่อยู่ระหว่างขยายระยะเวลา COD จำนวนประมาณ 24.6 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี ค่าใช้จ่าย ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะสามารถบันทึกเป็นรายการทรัพย์สินได้หรือไม่จำนวน 10 ล้านบาท
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการ HBRE Chu Prong Wind Power Farm จำนวนประมาณ 20 ล้านบาท เป็นการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกรณีที่ผู้ผลิตไม่สามารถจัดส่งอุปกรณ์ให้ ได้ตามข้อตกลงและบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม 825.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.29% จากค่าความเข้มแสงเพิ่มขึ้น ทั้ง 9 โครงการ ก าลังการผลิตรวม 836.72 เมกะวัตต์
อีกทั้ง บริษัทมีรายได้จากโครงการพลังงานขยะ 182.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.59% เกิดจากการ ปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์เมื่อไตรมาส 4 ปี 2564
รวมถึงรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ 102.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.53% จากรายได้จากธุรกิจ น้ำประปาและน้ำดิบเพิ่มขึ้น จากโครงการบางวาด ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ที่เริ่มจำหน่ายน้ำให้แก่การประปา ภูเก็ต เมื่อไตรมาส 4 ปี 2564