PLUS ปลื้ม! นักลงทุนจองซื้อ “ไอพีโอ” ล้นหลาม ลุยเทรด 20 พ.ค.นี้

PLUS ปิดจองซื้อหุ้น IPO 170 ล้านหุ้น นักลงทุนตอบรับอย่างล้นหลาม ตอกย้ำความเชื่อมั่นหุ้นเครื่องดื่มน้ำผลไม้ และเชื่อมั่นปี 65 ผลงานก้าวกระโดด พร้อมเทรดวันแรก 20 พ.ค.65


นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่า ในช่วงจองซื้อหุ้น IPO ของ PLUS ระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ PLUS ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำผลไม้รายใหญ่เพื่อการส่งออก ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากถึง 98%

โดยตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ได้แก่ประเทศ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดน้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตสูง สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และมั่นใจว่า PLUS จะได้รับการตอบรับที่ดีในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นี้

ทั้งนี้ PLUS เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 4.50 บาท/หุ้น โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 5 แห่ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) และบริษัท กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด

นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของ PLUS ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวนประมาณ 765 ล้านบาท (ซึ่งยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ใช้ลงทุนในโครงการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม ในการขยายไลน์การผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค

โดย PLUS มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น เป็นผู้ส่งออกน้ำมะพร้าวอันดับต้นๆ มีจุดแข็งและรสชาติของเครื่องดื่ม อย่างเช่นมะพร้าวที่ปลูกในประเทศไทยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และถูกปากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นและประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในธุรกิจน้ำมะพร้าวและน้ำผลไม้ มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่รสชาติคงที่ตลอดปี แม้ว่าผลไม้จะมีรสชาติที่แตกต่างในแต่ละฤดูกาล มีระบบการผลิตที่ยืดหยุ่นต่อทุกขนาดการผลิต และความสามารถในการจัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพตลอดทั้งปี

รวมทั้งมีกลยุทธ์ทางธุรกิจในการส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ส่งผลให้รายได้จากการขายอยู่ในรูปสกุลเงินต่างประเทศเป็นสัดส่วนสูงมีการเติบโตที่ยั่งยืนของรายได้ ด้วยยอดขายเติบโตปีละ 8.5% สำหรับช่วงปี 2561-2564 เนื่องจากความต้องการของสินค้าที่มากขึ้น แม้ว่าค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นในปี 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยอดการสั่งซื้อยังคงต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2561-2564) มีรายได้จากการขาย 786.4 ล้านบาท 891.5 ล้านบาท 1,102.8 ล้านบาท และ 1,003.2 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมะพร้าว และคำสั่งซื้อของลูกค้าทวีปอเมริกาเพิ่มขึ้น ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1.3 ล้านบาท 11.7 ล้านบาท 57.2 ล้านบาท และ 85.6 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.2% 1.3% 5.2% และ 8.5% ตามลำดับ จากการบริหารจัดการการผลิต ต้นทุน และการดำเนินการที่ดีขึ้นทำให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในครั้งนี้ จะสนับสนุนให้ PLUS มีศักยภาพในการขยายตลาดใหม่และโอกาสใหม่ๆ และมองว่า PLUS จะเป็นอีกหุ้นในใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัทที่มีจุดแข็งและพร้อมเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

Back to top button