XPG รายได้ค่าฟีลด-ส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนลด กดงบ Q1 พลิกขาดทุน 38 ลบ.

บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/65 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมลดลง 53.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 214 สาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 4.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.53 ล้านบาท โดยหลักจากการรับรู้รายได้จากการ เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลของบริษัทย่อย เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เพิ่มขึ้น, รายได้ดอกเบี้ย 25.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.38 ล้านบาท โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนของบริษัท และรายได้ดอกเบี้ยจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย, ขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้ 60.02 ล้านบาท ทำให้รายได้จากเงินลงทุนลดลง 81.31 ล้านบาท

โดยหลักเกิดจากขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากหน่วยลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นตลาดเอเชีย และตลาดพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันใกล้ ทั้งนี้หากไม่รวมขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุน บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 23.19 ล้านบาท

ด้านค่าใช้จ่ายรวม 76.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 58 สาเหตุหลักมาจาก ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น 8.35 ล้านบาท จากการเพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท, บริษัทมีค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายเพิ่มขึ้น 0.99 ล้านบาท โดยหลักมาจากค่าที่ปรึกษาและค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลของบริษัทย่อย เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ที่เพิ่มขึ้น, โอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 0.71 ล้านบาท โดยหลักเกิดจากบริษัทได้รับชำระหนี้คืนของบริษัทและบริษัทย่อย, ค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้นรวม 15.04 ล้านบาท สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายด้านสารสนเทศและการสื่อสารเพิ่มขึ้น 4.18 ล้านบาท เพื่อการดำเนินธุรกิจและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 5.53 ล้านบาทโดยหลักมาจากขาดทุนจากการขายและตัดจำหน่ายสินทรัพย์จากการย้ายที่ทำการของบริษัทและบริษัทย่อย

ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในไตรมาสที่หนึ่งปี 2565 เท่ากับ 65.41 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 5.01 ล้านบาท โดยบริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจำนวน 63.68 ล้านบาท จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (กรุงไทย เอ็กซ์สปริง) ซึ่งบริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 49.71 กรุงไทย เอ็กซ์สปริง มีรายได้รวมลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4 โดยหลักมาจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม กรุงไทย เอ็กซ์สปริง มีรายได้ ในส่วนของค่าธรรมเนียมและบริการและกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช่จ่ายรวม ของกรุงไทย เอ็กซ์สปริงยังลดลงอีกด้วย จึงทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทลดลงเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสที่หนึ่ง ปีก่อนหน้าโดยมีกำไรสุทธิในปีนี้จำนวน 128.11 ล้านบาท