SONIC ตั้งเป้า Q2 รายได้นิวไฮ 7 ไตรมาสซ้อน -ลุ้นบอร์ดเคาะเพิ่มปันผล

SONIC ตั้งเป้ารายได้ไตรมาส 2/2565 ทำสถิติเติบโตนิวไฮ 7 ไตรมาสซ้อน รับแผนขยายตัวทุกธุรกิจขนส่ง และ M&A ไว้ประมาณ 2-3 ดีลกลับมาตามแผน ลุ้นบอร์ดไฟเขียวเพิ่มปันผล


ดร. สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/2565

บริษัทฯ มีการทำรายได้นิวไฮมา 6 ไตรมาสติดต่อกัน และเชื่อว่าไตรมาส 2/2565 ยังคงทำนิวไฮต่อเนื่อง เพราะจากช่วงเกิดโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดหนัก บริษัทฯได้มีการปรับตัวและขยายฐานลูกค้า ซึ่งการปรับตัวดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อมองไปข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นไตรมาส 2/2565 หรือไตรมาส 3/2565 ด้วยฐานลูกค้าที่มีการขยายมาขึ้นคาดว่าจะสามารถผลักดันให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย 20%

ขณะที่สถานการณ์การล็อคดาวน์ของจีน หรือว่าวิกฤตยูเครน-รัสเซีย ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนัก อาจด้วยสาเหตุของการขนส่งส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางไปยังยุโรปตะวันตก ในขณะที่สถานการณ์ประเทศจีน แม้จะมีการล็อกดาวน์ แต่การขนส่งสินค้ายังมีการดำเนินไปอย่างปกติ

นอกจากนี้จากการปรับตัวขึ้นของค่าระหว่างเรือในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อการขนส่งทางเรือเป็นอย่างมาก เพราะผลักดันให้การขนส่งทางเรือสามารถทำรายได้สูงถึง 80% ของรายได้ทั้งหมด จากเดิมที่มีเพียง 65-70% ทั้ง ๆ ที่ปริมาณการขนส่งยังมีเท่าเดิม และรอลุ้นการนิวไฮต่อเนื่องครั้งที่ 7

เป้าหมายการเติบโตในปี 2565

บริษัทฯได้ตั้งเป้าการเติบโต 20% และจะต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มการให้บริการ  ซึ่งทางบริษัทก็มีความมั่นใจเพราะด้วยศักยภาพของทีมงานและการขยายฐานลูกค้าจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างแน่นอน นอกจากนี้อาจต้องจับตาเรื่อง M&A ของบริษัท เพราะเป็นแผนของบริษัทนับตั้งแต่เข้าตลาดแล้ว ซึ่งมีดีลไว้ประมาณ 2-3 ดีล แต่ด้วยสถานการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น อาจทำให้การ M&A มีการชะลอตัว แต่ ณ ปัจจุบันได้มีกลับมาเดินแผนตามเดิม แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของราคาที่สมเหตุสมผล

 

การขนส่งทางบก ได้รับโอกาสมากแค่ไหนจากการเปิดรถไฟเส้น ลาว-จีน

ปัจจุบันทางบริษัทก็มีการขนส่งทางถนนไปยังประเทศจีนอยู่แล้ว ดังนั้นการเปิดรถไฟเส้นลาว-จีน มันเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ พึงเล็งเห็นที่จะสร้างประโยชน์ให้บริษัทเช่นกัน ตอนนี้ก็เหลือแค่การตกลงเพราะทางบริษัทฯมีสินค้าที่พร้อมส่งอยู่แล้ว การที่รถไฟเส้นลาว-จีนเปิดให้บริการ ก็จะเป็นการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทเช่นกัน ขณะที่ Margin ระหว่างการขนส่งทางรางรถไฟกับทางถนน มีค่าอยู่ในระดับเดียวกัน แต่การขนส่งทางรางจะสร้างมูลค่าได้มากขึ้น ถ้าในอนาคตสามารถบรรจุการขนส่งได้ในปริมาณที่มากขึ้น รวดเร็วขึ้น และสะดวกมากขึ้น

สถานการณ์การขนส่ง

อันดับแรกกล่าวถึงการขนส่งทางทะเลอาจสร้างมูลค่าได้ไม่เท่าปลายปี 2564 แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สร้างมูลค่าได้สูง ขณะที่ทางอากาศจะบริษัทฯจะให้ปริมาณการขนส่งน้อยกว่าการขนส่งทางเรืออยู่แล้ว แต่แน่นอนว่าเมื่อมีการเปิดเมืองและสายการบินกลับมาให้บริการะหว่างประเทศมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เป็นผลดีต่อตัวบริษัทอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้ก็พิสูจน์ได้จากผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา การขนส่งทางอากาศมีการเติบโตอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ ก็มีการผลักดันให้การขนส่งทางนี้มีการเติบโตอย่างแน่นอนและคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 100% จากสัดส่วนที่ให้บริการ ณ ปัจจุบัน

กรอบแผนงานระยะยาวของบริษัท

ในส่วนที่เป็นงานหลักของบริษัทก็ตั้งเป้าในการเติบโตทุกยูนิต ขณะที่ธุรกิจการขนส่งบริษัทก็วางแผนในการเติบโตไปจนถึงระดับ”การเป็นผู้นำ” ซึ่งก็คือการเติบโต 20% ในทุกๆ ปี ขณะที่การ M&A ตั้งเป้าในการบรรลุการตกลง 1-2 ซึ่งจะมีความชัดเจนในภายภาคหน้า

การจ่ายปันผลที่มากขึ้น

มีโอกาสสูงเพราะว่าบริษัทฯ ก็มีนโยบายในการจ่ายปันผลทุก ๆ ปี ทีนี้ต้องมาดูว่าบริษัทฯมี Free Cash Flow จำนวนเท่าใด ซึ่งถ้ามีจำนวนมาก การจ่ายปันผลก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมของบอร์ดไว้ด้วย

Back to top button