JP ปักธงรายได้ปีนี้โต 50% เน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-ขยายโรงงานรองรับ OEM เพิ่ม

JP เปิดงบไตรมาส 1/65 รายได้แตะ 83.43 ลบ. ส่งซิกครึ่งปีหลัง 65 เน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-ขยายโรงงานรองรับ OEM เพิ่ม มั่นใจหนุนรายได้โตเข้าเป้า 50%


ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่าผลประกอบการในงวดไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้จากการขาย 83.43 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิ 11.58 ล้านบาท จากปัจจัยลบด้านโควิด-19

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้จากกลุ่ม Own Brand ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.2% จากไตรมาสที่ 4/2564 ซึ่งมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง สะท้อนศักยภาพการดำเนินงานด้านฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

“โดยผลประกอบการที่ขาดทุนในโค้งแรกปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนความขัดแย้งในต่างประเทศทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งประกอบกับผลกระทบจากโควิดฉุดกำลังซื้อหายไป แต่ด้วย Seasonal ของธุรกิจจะเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมั่นใจว่าทั้งปี 2565 ผลงานจะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะเดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีฐานการผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่ง ภายใต้มาตรฐานการผลิตยา (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข รองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชา” ดร.สิทธิชัย กล่าว

สำหรับปัจจุบันบริษัทได้รับใบอนุญาตผลิตที่มิใช่การปลูก ยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากขยายโรงงานที่จังหวัดลำพูน และติดตั้งเครื่องจักรสกัดกัญชาและกัญชง เพื่อสามารถผลิตสารสกัด, น้ำมันกัญชา, full spectrum, board spectrum, CBD isolate, water soluble CBD isolate ซึ่งเป็นสารสกัดบริสุทธิ์ที่ละลายน้ำได้ โดยมีกำลังการผลิต 300 กิโลกรัม รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม OEM กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงนำสารสกัดที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ Own Brand เพื่อตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ

โดยในปี 2565 บริษัทจะมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการร่วมกับสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมทั้งจะเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์และสร้างการรับรู้แบรนด์ของตัวเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร เพราะเป็นกลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งขณะที่รับจ้างผลิต (OEM) อาหารเสริมช่วงนี้อาจชะลอตัวเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่คาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 และจะทำให้ออเดอร์ OEM เพิ่มขึ้นสอดคล้องกันไป อีกทั้งคาดว่าอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) จะเห็นภาพชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง

รวมทั้งจะมุ่งเข้าสู่ Digital Platform มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดขายสินค้าใหม่ผ่านทาง LINE แล้ว ภายใต้แบรนด์ “สุภาพโอสถ” ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัทเอง

ขณะที่ล่าสุดได้จับมือ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เพื่อรุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติผ่านช่องทาง ทีวี ช้อปปิ้ง และช่องทางออนไลน์ เจาะตลาด Direct to Customer นำร่องด้วยผลิตภัณฑ์ Black Sesame Oil, Rice Bran Oil และ Super food โปรตีนจากพืช ทำให้มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายรายได้รวมในปี 2565 เติบโต 50% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 429.13 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน                       

Back to top button