จับตา SMK ร่วงหนัก! เซ่นขอฟื้นฟูกิจการ หวังแก้ปัญหาภาระหนี้สิน

SMK เสี่ยงร่วงหนัก! หลังขอฟื้นฟูกิจการ หวังแก้ปัญหาภาระหนี้ค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19


บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงานคปภ.) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอความยินยอมในการฟื้นฟูกิจการของประกันวินาศภัย พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 12 เม.ย.65 ซึ่งกำหนดรายละเอียดในกรณีการขอความยินยอมยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย ต่อมาคณะกรรมการของบริษัทได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้บริษัทยื่นขอความยินยอมเพื่อยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการต่อสำนักงานคปภ. บริษัทจึงได้ยื่นคำขอความยินยอมเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการต่อสำนักงานคปภ.เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นั้น

โดยภายหลังจากที่สำนักงาน คปภ. ได้พิจารณาคำขอดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 สำนักงานคปภ. จึงได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือต่อบริษัทฯ ให้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยบริษัทฯ ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว ในการนี้ บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว โดยบริษัทฯ ขอชี้แจงสาระสำคัญของคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ดังนี้

1.บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง

2.บริษัทฯ เสนอบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน

3.แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น ได้แก่

3.1 การหาแหล่งเงินทุนใหม่และปรับโครงสร้างทุน โดยเฉพาะการเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินจากผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการชำระหนี้ และ/หรือ เพื่อปรับโครงสร้างทุนให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

3.2 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เสนอชำระหนี้ ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน

3.3 การศึกษาและจัดเตรียมแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การฟื้นฟูกิจการเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้ค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการที่มีกฎหมายรองรับและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยบริษัทจะดำเนินธุรกิจตามปกติอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

รวมถึงการให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยต่างๆ เช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเบ็ดเตล็ด และประกันขนส่งทางทางทะเล โดยบริษัทจะดูแลและชำระค่าสินไหมทดแทนตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจตามทางการค้าปกติ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาสำหรับราคาหุ้น SMK ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากประเด็นข่าวดังกล่าวนี้

Back to top button