ANAN เล็งออกหุ้นกู้ 2 ชุด ชูดอกเบี้ย 4.7-5.6% เปิดจองซื้อ 10 -14 มิ.ย.นี้
ANAN เตรียมออกหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 1 ปี 7 เดือนและอายุ 2 ปี 7 เดือน ชูอัตราดอกเบี้ย 4.7-5.6% ต่อปี เสนอขายนักลงทุนทั่วไป ผ่าน 7 สถาบัน คาดเสนอขายวันที่ 10 และ 13-14 มิ.ย.65 ระดมทุนขยายธุรกิจ รองรับการเติบโตอนาคต
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ที่ระดับ “BBB-” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร และมีแนวโน้ม “คงที่” (Stable)
ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน 7 แห่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงวันที่ 10 มิถุนายน และ 13-14 มิถุนายน 2565
สำหรับบริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยโครงการคอนโดมิเนียมจะเน้นพัฒนาบนทำเลศักยภาพใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม เน้นแนวคิดและการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเซกเม้นท์ต่างๆ
โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2565) บริษัทมียอดโอน 1,412 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 12,417 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ ANANDA NEW BLUE มองหาโอกาสใหม่ ๆ พร้อมแนวคิดที่พัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการในรูปแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการชีวิตคนเมืองที่ปรับเปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด19
“ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่า ผู้ลงทุนจะให้ความสนใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย และมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมั่นใจว่า ปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต รวมถึงจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ลงทุนในการเลือกลงทุนหุ้นกู้ฯ ของบริษัท ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในขณะนี้อย่างแน่นอน” นายชานนท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การออกหุ้นกู้ฯ ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการรองรับจังหวะที่สำคัญในการเติบโตของบริษัท หลังจากในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งนอกจากจะสะท้อนความมั่นใจของผู้ถือหุ้นที่พร้อมจะเติบโตไปกับบริษัท ยังทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีโครงสร้างเงินลงทุนที่เหมาะสมกับการขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ตอกย้ำด้วยความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 5,000 ล้านบาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
รวมถึงการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ ทำให้มีทางเลือกที่หลากหลายในการจัดหาแหล่งเงินทุน ขณะเดียวกันโครงการของบริษัทได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เช่น มิตซุย ฟูโดซัง, บีทีเอส กรุ๊ป, เพรสซิเดนท์ ดี เวนเจอร์, ดุสิตธานี, สแครทช์ เฟิร์สท์ และดิ แอสคอทท์ เป็นต้น ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของพันธมิตรทางธุรกิจและสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี